ตำรวจสืบสวนเมืองพิษณุโลกจับกุมคนร้ายก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์ ในพื้นที่รับผิดชอบ

ด้วยในช่วงตั้งแต่เดือน ธ.ค.2564 ถึงปัจจุบัน ได้มีเหตุคร้ายตะเวนก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์และลักทรัพย์สิน ตามบ้านเรือน ร้านค้า หอพัก ร้านกาแฟในพื้นที่ จำนวนหลายราย สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก

วันที่ 11 มกราคม 2565 เวลา 09.00 น. พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก จึงได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ และกล้องวงจรปิดตามเส้นทางภายในพื้นที่ ของ สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อหาเบาะแสคนร้าย จนกระทั่งวันที่ 10 มกราคม 2565 เวลาประมาณ 21.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ขับรถออกสืบสวนหาข่าวในพื้นที่รับผิดชอบ พบเห็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 110ไอ สีน้ำตาล–ดำ หมายเลขทะเบียน 1กฉ 2853 พิษณุโลก จากการตรวจสอบพบว่าเป็นที่ถูกแจ้งหายไว้ จอดอยู่บริเวณริม ถ.ประชาอุทิศ ต.วัดจันทร์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก จึงได้เฝ้าสังเกตุในบริเวณใกล้เคียงรถคันดังกล่าว พบชายมีลักษณะตำหนิรูปพรรณ การแต่งกายคล้ายผู้ก่อเหตุที่ผ่านมา นั่งดื่มสุราอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอบถามชายคนดังกล่าว ทราบชื่อภายหลังคือ นายอนุสรณ์ หรือ เก่ง สุขดี อายุ 19 ปี  ซึ่งนายอนุสรณ์ฯ ได้ให้การรับสารภาพด้วยความสมัครใจ ว่าเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2565 เวลาประมาณ 04.00 น. นายอนุสรณ์ฯ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ฮ้อ ฮอนด้า รุ่นดรีม สีแดง ทะเบียน ฉ.7480 อุทัยธานี ( ซึ่งเป็นรถที่ลักมา ) ออกตระเวนลักทรัพย์ในพื้นเขต อ.เมืองพิษณุโลก จนกระทั่งขับขี่มาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นร้านขายอาหารตามสั่ง พบเห็นรถจักรยานยนต์ของกลางจอดอยู่บริเวณข้างร้านเสียบคากุญแจทิ้งไว้ นายอนุสรณ์ฯ เกิดความอยากได้เนื่องจากสภาพรถ ใหม่กว่ารถจักรยานยนต์คันที่ใช้ขับขี่อยู่ จึงได้เข้าไปลักรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว และได้จอดรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ขับขี่มาก่อเหตุทิ้งไว้ แล้วหลบหนีไป จากนั้น นายอนุสรณ์ฯ ได้ใช้รถจักรยานยนต์ของกลางที่ลักมาได้ขับขี่ตระเวนลักทรัพย์ ภายในพื้นที่ อ.เมืองพิษณุโลก จำนวนหลายแห่ง จนกระทั่งได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้พร้อมด้วยของกลาง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้นายอนุสรณ์ฯ ทราบว่า “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร”

นอกจากนี้ นายอนุสรณ์ฯ ได้ให้การรับสารภาพเพิ่มเติมว่าได้ก่อเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่อีก จำนวน 9 ราย  ซึ่งเชื่อว่ายังมีอีกหลายครั้งที่ได้ก่อเหตุ แต่ไม่ได้ทรัพย์สินไป

ปรีชา นุตจรัส รายงานข่าวพิษณุโลก