องค์การสวนสัตว์ฯ ร่วมลงนาม MOU เพื่อพัฒนาและขยายธุรกิจด้านพลังงาน
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (อสส.) จับมือร่วมลงนาม MOU พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านยานยนต์ไฟฟ้า-ธุรกิจพลังงาน เพื่อสัตว์ป่า ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
(23 ธ.ค.64) นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และ นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการบูรณาการเพื่อการพัฒนาและขยายธุรกิจด้านระบบโลจิสติกส์ ยานยนต์ไฟฟ้า พลังงาน และกิจการอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยมี รศ.ดร.วรสัณฑ์ บูรณากาญจน์ กรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ได้ร่วมเป็นเกียรติในพิธี ซึ่งกรอบความร่วมมือจะเป็นการร่วมกันศึกษา พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และร่วมกันศึกษาแนวทางการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อใช้ในภารกิจขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย
ทั้งสองหน่วยงานจะมีบทบาทในการพัฒนาพื้นที่ศักยภาพขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย อาทิ การติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่จอดรถ เพื่อให้บริการประชาชน (EV public charging service) และร่วมกันพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการพลังงานในรูปแบบต่างๆ เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงานและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ (Energy Efficiency) โดยการประยุกต์ใช้ระบบการบริหารจัดการพลังงาน และการใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น ระบบโซลาร์ และ ระบบกักเก็บพลังงาน รวมถึงการใช้เทคโนโลยีด้านพลังงานอื่นๆ เพื่อสนับสนุนนโยบายอนุรักษ์พลังงาน
นอกจากนี้ ยังร่วมกันศึกษาโอกาสในการพัฒนาธุรกิจด้านยานยนต์ไฟฟ้า การบริหารจัดการพลังงาน และธุรกิจอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย กล่าวขอบคุณ กฟผ. ที่ได้ทำ บันทึกข้อตกลงร่วมกันในครั้งนี้ โดยบริบทขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย เป็นพื้นที่ที่มีคนเข้าไปใช้บริการเที่ยวชมในช่วงก่อนโควิดประมาณ 5 ล้านคนต่อปี แนวโน้มจะมีการใช้รถยนต์ไปเที่ยวสวนสัตว์ ปีละกว่า 300000 คัน/ครั้ง และคนจะหันมาใช้รถ EV กันมากขึ้น ดังนั้น ความร่วมมือในการใช้พลังงานสะอาด ด้วยเทคโนโลยีและความรู้ ประสบการณ์ของ กฟผ. จะช่วยเติมเต็มงานบริการของสวนสัตว์ ให้ผู้ใช้บริการมีความพึงพอใจ รวมถึงเป็นการใส่ใจในสิ่งแวดล้อม เป็นตัวอย่างที่ดี และสอดคล้องตามโนบายรัฐในความร่วมมือลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอีกด้วย และในอนาคตอันใกล้ โครงการสวนสัตว์แห่งใหม่ จะได้นำแนวทางการใช้พลังงานสะอาด ไปใช้ในโครงการต่อไป
ด้านนายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กล่าว ภารกิจของ กฟผ. มีความเชี่ยวชาญในการผลิตไฟฟ้ามากว่า 50 ปี ซึ่งไม่เพียงแต่ผลิตไฟฟ้าและทำให้ไฟฟ้ามีความมั่นคงเท่านั้น แต่ได้คำนึงถึงความสุขของคนที่ได้ใช้ไฟฟ้า ขณะที่สวนสัตว์เป็นสถานที่สร้างความประทับใจให้กับเด็กและเยาวชนเกิดความรักธรรมชาติและอนุรักษ์สัตว์ป่า ดังนั้น จึงเห็นว่าความร่วมมือของทั้งสองหน่วยงานเป็นแนวทาง ที่สอดคล้องกัน โดยเฉพาะเรื่องของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่จะทำให้เป็นเรื่องเชิงบวกเกิดขึ้นในสังคมไทย และมีความยินดีที่ได้ให้ กฟผ. เข้ามาช่วย โดยทีมงานมีความตั้งใจที่จะให้สังคมเปลี่ยนมาใช้ไฟฟ้าที่เป็น Green มากขึ้น