ชลประทานระดมเครื่องจักรกลเข้าซ่อมพนังกั้นน้ำพังจากมวลน้ำป่า ส่วนระดับน้ำท่วมเริ่มลดลง
สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมจากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า ล่าสุดสภาวะฝนที่ตกลงมาได้หยุดตกลงแล้วเป็นวันที่ 3 ส่งผลทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก ที่รองรับมวลน้ำป่าเพื่อไหลระบายลงสู่ทะเลด้านอำเภอตากใบ มีปริมาณน้ำลดลง โดยสูงกว่าตลิ่งประมาณ 90 ซ,ม. ขยายผลทำให้บ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรของประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งมีน้ำท่วมขังตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค. 64 ที่ผ่านมา จำนวน 4 หมู่บ้าน ประกอบด้วยบ้านมูโนะ ม.1 บ้านปรือมง ม.3 ต.มูโนะ บ้านตือระ ม.2 บ้านกวาลอซีรา ม.3 บ้านน้ำตก ม.5 ต.ปาเสมัส 2 กับอีก 2 ชุมชนเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก คือ ชุมชนบือเร็งในและชุมชนท่าประปา ซึ่งมีระดับน้ำท่วมขังลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยภาพรวมลดลงวันละ ประมาณ 30 ซ.ม.
ส่วนที่บริเวณพนังกั้นน้ำที่ถูกมวลน้ำป่าไหลเชี่ยวกรากพัดจนพังเสียหาย ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างกูโบบูโบะกูแว กับบ้านของนายบาฮารูเด็น อูมา เลขที่ 23 ม.1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก ที่ได้รับความเสียหาย ประมาณ 25 เมตร นั้น จากการตรวจสอบพบว่าบ้านพักของนายบาฮารูเด็น ถูกกระแสมวลน้ำป่าที่ไหลเชี่ยวกรากพัดจนห้องครัวหลังบ้านพักเสียหายทั้งแถบ ส่วนกูโบบูโบะกูแว ถูกกระแสมวลน้ำป่าพัดจนกำแพงด้านซ้ายมือของประตูทางเข้าเสียหายไปทั้งแถบ ยาวประมาณ 70 เมตร ซึ่งล่าสุดชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่บริเวณดังกล่าว ได้ช่วยกันทุบก้อนอิฐบล็อบที่บริเวณฐานของกำแพงออก เพื่อให้กระแสน้ำที่ล้นตลิ่งโดยพัดเข้ามาทางพนังกั้นน้ำ ได้ไหลสะดวกเพื่อเป็นการรักษากำแพงรั้วของกูโบไว้
ล่าสุดนายเฉลิมชัย ตรีนรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 17 ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องจักรกล ที่ปฏิบัติหน้าที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาโก-ลก ลงพื้นที่ใช้รถ เจ.ซี.บี. รถแบกโฮ ในการลงปราบพื้นที่โดยรอบซึ่งเป็นป่าค่อนข้างรกทึบ เพื่อที่จะให้รถยนต์บรรทุกสามารถลำเลียง BIG BAG ซึ่งในเบื้องต้นคาดการต้องใช้ จำนวน 300 ถุง ในการลำเลียงเข้าไปทำเป็นฐานให้รถแบกโฮสามารถเข้าไปถืงพื้นที่จุดพนังกั้นน้ำพัง แล้วค่อยๆนำ BIG BAG มาเรียงซ้อนกันเป็นพนังกั้นน้ำชั่วคราว เพื่อไม่ให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก ซึ่งล้นตลิ่งไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่ตลาดมูโนะ ซึ่งการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถที่จะระบุได้ไว้ จะนำ BIG BAG มาทำเป็นพนังกั้นน้ำแทนที่พังให้แล้วเสร็จภายในกี่วัน เนื่องจากจุดพนังกั้นน้ำที่พังเสียหายยังมีระดับน้ำสูง ประมาณ 2 เมตร ซึ่งเป็นอุปสรรคของรถแบกโอ ที่ไม่สามารถเข้าไปได้อย่างสะดวก
ส่วนในพื้นที่ อ.แว้ง รือเสาะและสุไหงปาดี ซึ่งได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาสะสมในพื้นที่บ้านเรือนของประชาชน ที่ปลูกสร้างอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มนั้น ขณะนี้ปริมาณน้ำท่วมขังได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าหากฝนหยุดตกในช่วง 2 ถึง 3 วัน สภาวะน้ำท่วมจะกลับคืนสู่สภาวะปกติ
นราธิวาส/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ