รอง ผบช.ภ.6 เผยตำรวจออกหมายเรียก เจ้าของเบอร์โทรศัพท์-บัญชี โยงแก๊งทวงหนี้นอกระบบ ข่มขู่ยายวัยชรา
วันที่ 21 ธันวาคม 2564 พล.ต.ต.ระวีพรรษ อมรมุนีพงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 6 (รอง ผบช.ภ.6) กล่าวถึงกรณีคลิปเสียงโทรข่มขู่ลักษณะของการทวงหนี้นอกระบบ ในฐานะที่ตนรับผิดชอบเกี่ยวกับศูนย์ป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ ตำรวจภูธรภาค 6 ได้กำชับสั่งการให้ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก ดำเนินการในคดีนี้โดยเฉียบขาด
พล.ต.ต.ระวีพรรษ กล่าวว่า จากการที่มีประเด็นเกี่ยวกับคลิปเสียงในการโทรไปข่มขู่ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการกู้เงินนอกระบบเป็นการโทรไปข่มขู่ในลักษณะของการทวงหนี้ ปรากฏในสื่อโซเชียลนั้น ทางตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ไม่ได้นิ่งนอนใจ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.)พิษณุโลก ได้สั่งการให้ผู้กำกับ การ สภ.บ้านแยง อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ดำเนินการเบื้องต้นทราบว่าทาง สภ.บ้านแยง ได้ดำเนินการรับคดีเกี่ยวกับความผิดลักษณะของการข่มขู่ ซึ่งผู้เสียหายคือมารดา ในส่วนของคดีกับการปล่อยเงินกู้หรือเรียกอัตราดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายที่กำหนด ซึ่งผู้กู้หรือผู้เสียหายเป็นบุตรสาว
รอง ผบช.ภ.6 กล่าวอีกว่า ทางการสืบสวนพบว่าการกระทำความผิดเกี่ยวกับการเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดนั้นเกิดขึ้นในท้องที่ของ สภ.เมืองพิษณุโลก ผู้เสียหายอยู่ในระหว่างไปแจ้งความที่ สภ.เมืองพิษณุโลก ในส่วนของตำรวจภูธรภาค 6 ได้ทำการตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ต้องหาที่โทรมาข่มขู่ ขณะนี้ทราบชื่อที่อยู่ เจ้าของเบอร์โทร และชื่อเจ้าของบัญชีธนาคารที่โอนเงินมาให้ น.ส.ธัญญานันท์ ผู้กู้แล้ว โดยพบว่าเบอร์โทรมีการเปิดใช้อยู่ในพื้นที่โซนภาคใต้ แต่จากการจับสัญญาณโทรศัพท์นั้นพบว่ามีการใช้งานเบอร์อยู่ในพื้นที่โซนภาคเหนือรอยต่อประเทศเพื่อนบ้าน จึงได้ทำการออกหมายเรียกเจ้าของเบอร์โทรดังกล่าวให้เข้ามาพบพนักงานสอบสวน หากออกหมายเรียกครบ 3 ครั้งแล้วไม่มาพบ ก็จะทำการออกหมายจับในข้อหาขัดขืนต่อหมายเรียกต่อไป.
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากจากกรณีที่มีคลิปวิดีโอแก๊งแอปเงินกู้ออนไลน์โทรทวงหนี้คุณยายวัย 64 ปี ข่มขู่หากลูกสาวไม่นำเงินมาคืน ความยาวคลิป 4 นาที ซึ่งตลอดระยะเวลาที่โทรทวงหนี้ปลายสายใช้ถ้อยคำหยาบคาย ถึงขั้นข่มขู่ตัดของลับหากลูกสาวไม่สามารถนำเงินมาคืนได้ภายในกำหนดเวลา ถึงแม้ว่าคุณจะปฏิเสธไม่รู้เรื่องและพยายามอธิบายก็ตาม ล่าสุด รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 สั่งชุดสืบสวนเร่งติดตามคดี จับสัญญาณโทรศัพท์พบมีการใช้งานเบอร์โทรศัพท์อยู่ในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านโซนภาคเหนือ เตือนประชาชนอย่าหลงกลมิจฉาชีพอาศัยช่วงชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนในสถานการณ์โควิด-19 ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยมหาโหด
โดย เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.64 เวลา 14.00 น. นางสังเวียน ราชกิจมา อายุ 64 ปี เดินทางมาพบ ร.ต.อ.สังเวียน เอี่ยมโซ้ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านแยง อ.นครไทย จ.พิษณุโลก โดยแจ้งความว่าเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.64 เวลาประมาณ 14.50 น. และให้การว่าขณะที่ตนเองอยู่ที่บ้านพัก ได้ได้มีบุคคลโทรศัพท์จากหมายเลข 086-2641585 เข้ามาที่โทรศัพท์ผู้แจ้ง พร้อมพูดว่าให้ผู้แจ้งใช้หนี้แทน (บุตรสาว) ซึ่งได้กู้เงินไปจำนวน 3,500 บาท แล้วไม่ยอมจ่ายหนี้ ซึ่งครบกำหนด 7 วันแล้ว
ซึ่งนางสังเวียน กล่าวอีกว่า ตนได้ตอบกลับไปว่าไม่รู้เรื่องด้วยกับการกู้เงินดังกล่าวทำให้บุคคลดังกล่าวโมโหพร้อมพูดข่มขู่ผู้แจ้งว่า “เดี๋ยวกูจะฆ่า ถ้าไม่มีเงินมา ให้ตัด..ีไปขาย ไปตายซะอีแก่” แล้วก็คุยกันต่ออีกประมาณ 3-4 นาที โทรศัพท์ก็ตัดสายไป ซึ่งในการสนทนากันผู้แจ้งได้บันทึกเสียงในโทรศัพท์ไว้และนำมามอบให้พนักงานสอบสวนไว้แล้ว
จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนปากคำบุตรสาวผู้แจ้ง(ผู้กู้เงิน) ให้การว่า เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.64 ได้โหลดแอป Orang Loan ทางแอปออนไลน์ทางเฟสบุ๊ค เพื่อขอกูยืมเงิน จำนวน 3,500 บาท หลังจากให้ข้อมูลในแอปดังกล่าว เวลาประมาณ 15.00 น. ได้มีเงินโอนเข้ามาในบัญชี ธนาคารกสิกรไทย สาขาบิ๊กซีพิษณุโลก บัญชี น.ส.ธัญญานันท์ โดยไม่ทราบเลขบัญชีต้นทางที่โอนมา จำนวนเงิน 2,100 บาท โดยมีข้อสัญญาว่าต้องคืนเงินภายใน 7 วัน จำนวนเงิน 4,947.25 บาท รวมดอกเบี้ย แต่เมื่อถึงกำหนด น.ส.ธัญญานันท์ ไม่ได้ส่งเงินคืนตามกำหนด จึงมีตัวแทนจากแอปฯ โทรศัพท์มาทวงหนี้กับนางสังเวียนฯ ผู้แจ้ง พร้อมทั้งข่มขู่ฯ ดังกล่าว ร.ต.อ.สังเวียน เอี่ยมโซ้ รอง สว.(สอบสวน) ได้รับคำร้องทุกข์ไว้แล้วตามคดีอาญาที่ 116/2564 ลง 16 ธ.ค.64 เวลา 14.00 น. ปจว.ข้อ 5 เพื่อจะได้สืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดต่อไป
ปรีชา นุตจัรส รายงานข่าวพิษณุโลก