รอง ผบ.สตช.บินด่วนสระแก้ว รับเหยื่อออนไลน์ในกัมพูชา 107 คนไทย ที่ถูกกักขังในบ่อนกัมพูชา ของนายทุนชาวจีน กลับบ้านเกิด
สตช.ไทยจับมือกรมตำรวจกัมพูชา บุกทะลายบ่อนออนไลน์ในกัมพูชา สามารถช่วยเหลือ107คนไทยเหยื่อบ่อนออนไลน์ออกมาได้อย่างปลอกภัย นอกจากนั้นยังสามารถจับตัวชาวจีนซึ่งเป็นเจ้าของบ่อนฯได้อีกจำนวนหนึ่ง โดยล่าสุดกรมตำรวจกัมพูชาได้นำตัวคนไทยทั้งหมดมาส่งกลับประเทศไทยตรงบริเวณกลางสะพานมิตรภาพไทยกัมพูชาทางด้านชายแดน จ.สระแก้ว โดยมีรอง ผบ.สตช.เดินทางมารับได้ตัวเอง
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 24 พ.ย.64 ที่กลางสะพานมิตรภาพไทยกัมพูชา บริเวณหน้าจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พล.ต.อ.รอย อิงไพโรจน์ รอง.ผบ.สตช.พร้อมคณะเดินทางมารับตัวคนไทยจำนวน107 คนที่ จนท.ตำรวจกัมพูชาช่วยเหลือออกมาจากบ่อนออนไลน์ที่ จ.โพธิสัตว์ ประเทศกัมพูชาเมื่อวันที่ 22 พ.ย.64 ที่ผ่านมา โดยมี พล.ท.เจีย เองยง ผช.ผบ.สห.กัมพูชา,พล.ต.ท.ยี เพียลี รองอธิบดีกรมตำรวจกัมพูชา,พร้อมคณะนำตัวคนไทยทั้ง107 มาส่งให้ฝ่ายไทยที่กลางสะพานมิตรภาพไทยกัมพูชา ซึ่งคนไทยกลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนที่ข้ามชายแดนด้านสระแก้วทั้งหมดโดยได้ถูกตัวไปทำงานบ่อนออนไลน์ในเมืองโพธิสัตย์ กัมพูชาของนายทุนชาวจีน
ซึ่งบรรยากาศการส่งตัวคนไทยในครั้งนี้เป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากคนไทยทั้งหมดต่างดีอกดีใจที่ได้เดินทางกลับบ้านเกิด หลังถูกกักขังอยู่ในบ่อนออน์ฝั่งกัมพูชามาเป็นเวลานานแล้ว หลังจากที่คนไทยทั้งหมดเดินทางเข้ามาในฝั่งประเทศไทยแล้ว เบื้องต้นก็จะต้องถูกดำเนินคดีเดินทางเข้ามาในประเทศโดยผิดกฎหมายปรับคนละ 800 บาท จากนั้นก็จะถูก จนท.หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำตัวไปกักตัวตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ซึ่งเบื้องต้นนั้นพบผู้ที่มีผลบวก จำนวน 34 คน เป็นหญิง 12 ชาย 22 คน โดยจะส่งไปตรวจ ATK อีกครั้ง และถ้าพบว่ามีผลบวกอีก ก็จะส่งตัวเข้ายังโรงพยาบาลอรัญประเทศทันที ส่วนที่เหลือไปกักตัวที่โรงแรมวังน้ำเย็นการ์เด็น
ด้านพล.ต.อ.รอย อิงไพโรจน์ รอง.ผบ.สตช.กล่าวว่า จากกรณีปรากฏข่าวทางสื่อโซเชียลมีเดียและสื่อโทรทัศน์ต่างๆ ว่ามีคนไทยถูกหลอกลวงและบังคับให้ทำงานผิดกฎหมายในประเทศกัมพูชา และได้ร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยราชการไทยให้ช่วยเหลือเดินทางกลับประเทศไทย ผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดีย ทางรัฐบาลไทยได้เร่งให้การช่วยเหลือโดยด่วน โดยได้ประสานกับรัฐบาลกัมพูชาให้การช่วยเหลือมาโดยตลอด ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ที่สามารถช่วยเหลือคนไทยออกมาได้ และทราบว่ากลุ่มองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้ถือโอกาสที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจในช่วงโควิด 19 ซ้ำเติมประชาชน หลอกลวงไปบังคับใช้แรงงาน ทำงานผิดกฎหมายในต่างประเทศ ซึ่งการกระทำในลักษณะดังกล่าวอาจเข้าข่ายการค้ามนุษย์ และกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปในสังคม ซึ่งหลังจากที่คนไทยกลุ่มนี้กลับเข้ามาแล้วจะต้องเข้ากักตัวตามของมาตรการสาธารณสุข หลังจากนั้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีการสอบปากคำผู้เสียหายทุกรายอย่างละเอียด เพื่อขยายผลดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทั้งหมด ทั้งในส่วนของผู้ชักชวน นายหน้า ผู้นำพา พร้อมทั้งประสานกับทางการกัมพูชาเพื่อดำเนินคดีกับนายจ้างชาวจีนต่อไป
….จาก.ไตรรัตน์ มีวงษ์ จ.สระแก้ว….