ผู้การฯสระแก้ว ชี้แจง เรื่องร้องตร.จับรีดเงินแสน ตามข่าวที่สื่อโซเชียลออก
ด้าน ผกก.แจ้งความกลับ เรียกร้องสิทธิที่ทำให้สนง.ตำรวจแห่งชาติและโรงพักเกิดความเสียหาย
จากกรณีที่นายจาตุภัทร ภาสบุตร ทนายความ และ นายสุจินธรา (สงวนนามสกุล) ผู้เสียหายที่อ้างว่าถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างเป็นตำรวจ แต่งกายนอกเครื่องแบบ บุกเข้าจับกุมโดยมิชอบและเรียกรับเงิน 1 แสนบาท เพื่อแลกกับอิสรภาพ โดย นายจาตุภัทร ให้ข้อมูลว่า ผู้เสียหายถูกจับกุมแล้วนำตัวไปที่ห้องสืบสวนโรงพักดังกล่าว โดยตอนแรกข่มขู่ต่อรอง เรื่องคดียาเสพแต่ถ้าไม่สามารถทำได้ต้องนำเงิน 100,000 บาท มาเพื่อแลกกับอิสรภาพ เหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 11 พ.ย. ที่บ้านพักใน อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ของพ่อที่เปิดเป็นร้านขายของชำ โดยมีชายฉกรรจ์ 5-6 คน บุกเข้ามาจับกุมตัวและใส่กุญแจมือ จากนั้นได้ตรวจค้นในบ้านแต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ก่อนพาผู้เสียหายไปโรงพัก และข่มขู่ว่าถ้าอยากกลับบ้านให้ติดต่อจับกุมคดียาเสพติดให้ได้ 3 ราย แล้วจะปล่อยตัวไปนั้น ซึ่งผู้เสียหาย ยืนยันว่าการกระทำดังกล่าวของชุดจับกุมไม่ชอบด้วยกฎหมาย ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ และเป็นการบุกรุกเคหะสถาน รวมถึงลิดรอนสิทธิเสรีภาพในร่างกายของผู้เสียหาย รวมทั้งมีการเรียกรับเงินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จึงทำหนังสือ และหลักฐานคลิปขณะเข้าจับกุม เดินทางเข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อขอให้ ผบช.ภ.2 ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงโดยเร่งด่วน และดำเนินการลงโทษทางวินัยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมให้ถึงที่สุด
ต่อมาเวลา16.00 น.วันนี้ที่21 พ.ย.64 พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ตร.ภ.จว.สระแก้ว ได้เดินทางมาที่สภ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว พร้อมเปิดห้องสอบถามรายละเอียด โดยพ.ต.อ.กฤษฎ์นิธิทัต พงธนณัชเมธาพร ผกก.สภ.วังสมบูรณ์ ได้เรียก ชุดจนท.ตร.ที่ได้ออกเป็นข่าวทั้งหมด มาเข้าชี้แจงให้ทาง ผู้การฯได้รับทราบ พร้อมปิดห้องไม่ให้สื่อมวลชนเข้ารับฟังแต่อย่างใด
จากนั้นพล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ตร.ภ.จว.สระแก้ว ได้ออกมาชี้แจงในข้อเท็จจริง สำหรับในเรื่องนี้ตามที่สื่อโซเชียลที่ออกข่าวมา ที่ได้มีจนท.จากสถานีตำรวจวังสมบูรณ์ ได้ออกไปทำงานจับกุมตัวผู้ร้องในเรื่องยาเสพติด และมีการเรียกรับเงิน เพื่อแลกกับการปล่อยตัว ตามที่เป็นข่าว ก็ได้รับรายงานแล้ว ซึ่งเรื่องมันเกิดมาตั้งแต่วันที่ 11 ที่ผ่านมา ซึ่งทางผู้ร้องได้เดินทางไปร้องเรียนทางท่านนายอำเภอวังสมบูรณ์ตั้งแต่วันที่ 17 ที่ผ่านมา ซึ่งทางโรงพักก็ได้ชี้แจงให้ทางท่านนายอำเภอได้รับทราบไปแล้ว ซึ่งเราก็ไม่คิดว่าเขาจะไปให้ข่าวให้รายละเอียดกับทางสื่อมวลชนอย่างไรบ้าง พอทราบเรื่องก็ได้เดินทางมาที่โรงพัก เพื่อขอทราบในรายละเอียดในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทาง ผกก.ก็มีรายละเอียดข้อมูลในข้อเท็จจริงอยู่แล้ว ซึ่งเท่าที่ทราบมาว่าบุคคลที่ร้องเรียนนี้ก็เคยถูกจับเรื่องคดียาเสพติดมา 3 ครั้งแล้ว และล่าสุดก็เพิ่งจะพ้นโทษในคดียาเสพติดเช่นกัน และเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา 3 เดือนนี้เอง ซึ่งส่วนหนึ่งนั้น จนท.ตร.ก็ยังคงเฝ้าติดตามพฤติการณ์ของผู้พ้นโทษไม่ให้ไปก่อเหตุซ้ำ เพราะเขาเป็นบุคคลที่สำคัญตามข้อมูลของจนท.เรา ซึ่งในวันเกิดเหตุนั้น ทางจนท.เราก็ได้เข้าไปเพื่อจะเข้าไปสอบถาม แต่ผู้ร้องเมื่อแลเห็นเป็นจนท.ก็ได้วิ่งหลบหนีทันที จนท.เราก็ได้วิ่งตามไปเรียกให้ออกมาซึ่งมันก็เป็นเหตุฉุกเฉิน จากนั้นก็ได้เชิญตัวมาที่โรงพักและได้มีการพูดคุยกันในเรื่องยาเสพติดซึ่งเมื่อไม่พบสิ่งผิดกฏหมายเราก็ได้ปล่อยตัวไป ซึ่งคาดว่าจะมีความไม่พอใจในจนท.ตร.อยู่แล้ว ซึ่งในเชิงลึกนั้น เรายังมีข้อมูลในเครือญาติอีกมากขอเอาไว้ก่อน
ด้านพ.ต.อ.กฤษฎ์นิธิทัต พงธนณัชเมธาพร ผกก.สภ.วังสมบูรณ์ กล่าวว่า ทางเราได้รายงานชี้แจงให้ทางท่านนายอำเภอได้รับทราบเบื้องต้นแล้วเกี่ยวกับทางผู้ร้อง และพอมาทราบเรื่องที่เป็นข่าวออกมา จริงๆเรามีข้อมูลอยู่แล้ว ซึ่งในวันนั้น เราก็ได้พูดคุยกับทางผู้ร้องแล้วด้วย ในการทำงานของจนท.นั้นเราได้ถ่ายคลิปถ่ายภาพนิ่งไว้หมด เอาไว้ตลอดในขณะนั้น ซึ่งก็ไม่ขอเปิดเผยมันเป็นข้อต่อสู้ของเรา ซึ่งมันทำให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติและโรงพักวังสมบูรณ์เสียหายนี้ เขาไปร้องสื่อ ก็ดีจะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกัน มันตรวจสอบได้อยู่แล้วตำรวจ มันเป็นจริงตามที่เขาพูดไหม เขาไม่ได้พัวพันเรื่องยาเสพติดจริงไหมมาคุยกัน ให้เขามายืนยันกัน เขาเคยถูกจับกุมเรื่องยาเสพติด ในปี 54,ปี 56 ครั้งล่าสุดปี 61 โดนคดีครอบครองเพื่อจำหน่าย ติดคุก 3 ปี 9 เดือน และเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อวันที่ 9 กันยายน ที่ผ่านมา คือคนเพิ่งพ้นโทษมา เราก็ต้องคอยดูคอยตรวจสอบ ซึ่งในวันนั้นในเชิงลึกเราทราบว่า จะมีการส่งมอบยากัน เราจึงไปตรวจสอบ พอเขาแลเห็นจนท.เราเขาก็วิ่งหนีเข้าไปในบ้านทันที มันจึงเป็นเหตุฉุกเฉิน ซึ่งตัวเขาทราบดีว่าเขาทำอะไรอยู่ เราก็ได้บอกให้เขาออกมาพบ และตอนนี้ก็ยังติดต่อไม่ได้ ทางเราจึงจะดำเนินการออกหมายเรียกให้มาพบ ซึ่งเรื่องคดียาเสพติดของเขาที่ผ่านมานั้น เขาร้องเรียนทุกที่ทั้งหมด แต่ทางศาลก็ยกฟ้องเราตลอด เรามีหมดในขบวนการเครือข่ายของเขา ผมตามมาตั้งแต่ผมยังอยู่ที่ปราจีนบุรี ซึ่งขอเก็บไว้ก่อน ซึ่งในเรื่องนี้ เราฟ้องกลับแน่นอน
…จาก.ไตรรัตน์ มีวงษ์ จ.สระแก้ว…