โลตัส ติดโผบริษัทน่าทำงานชั้นนำระดับเอเชีย รับรางวัล "Best Companies to Work for in Asia 2021"
โลตัส รับรางวัล "บริษัทดีเด่นที่น่าทำงานมากที่สุดในเอเชีย" ของประเทศไทย ประจำปี 2021 จาก HR Asia ซึ่งประเมินการบริหารทรัพยากรบุคคล และสำรวจความคิดเห็นของพนักงานในบริษัท ด้านการดูแลพนักงานการพัฒนาศักยภาพและสนับสนุนการเรียนรู้ทักษะแห่งอนาคต รวมทั้งวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมและให้ความสำคัญกับพนักงานทุกคน รางวัลตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกที่ยั่งยืนในระดับภูมิภาค
นางสาวอรวลัญช์ สีวลีพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย กล่าวว่า “โลตัส ให้ความสำคัญกับการดูแลเพื่อนพนักงาน เรามุ่งส่งเสริมให้พนักงานเติบโตไปพร้อมกับองค์กรและสร้างวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญกับเพื่อนพนักงานทุกคนพร้อมนโยบายและสิทธิประโยชน์ที่ช่วยดูแลเพื่อนพนักงานของเราทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจโลตัส มีแผนงานบริหารทรัพยากรบุคคลอย่างรอบด้าน เพื่อให้การเติบโตที่ยั่งยืนของทั้งพนักงานและธุรกิจ โดยเน้นการพัฒนาศักยภาพเพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าของพนักงาน ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ การส่งเสริมการเรียนรู้อย่างไม่สิ้นสุดและทักษะแห่งอนาคต โดยให้ความยืดหยุ่น (Flexibility) กับพนักงาน ทั้งด้านการเรียนรู้ การทำงาน และการเลือกสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อให้เหมาะกับตนเอง อาทิ Personalized Learning สามารถเลือกเรียนวิชาที่ต้องการ เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา พร้อม Personalized Experience ผ่านการนำเทคโนโลยีมาใช้ทั้งในการเรียนและการทำงาน เพื่อสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล และ Personalized Benefits ที่ให้พนักงานเลือกแผนการลงทุนและการออม แผนประกันสุขภาพ ในแบบที่เหมาะกับตนเอง เป็นต้น
นอกจากนี้ โลตัส ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพพนักงานแบบองค์รวม (Total Well-being) ทั้งสุขภาพกาย สุขภาพใจ ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งในยุคที่พนักงานต้องเผชิญความท้าทายจากโควิด-19 เช่น บริการ Telemed ให้คำปรึกษาทั้งสุขภาพกายสุขภาพใจ และประกันภัยโควิด-19 สำหรับพนักงานทุกคน การได้รับรางวัล "บริษัทดีเด่นที่น่าทำงานมากที่สุดในเอเชีย" ประจำประเทศไทย (HR Asia Best Companies to Work for in Asia 2021 – Thailand Edition) จากการประเมินโดยสถาบันชั้นนำ และการสำรวจความคิดเห็นของพนักงานในบริษัท เป็นสิ่งย้ำเตือนและแรงผลักดันให้บริษัทมุ่งมั่นดูแล และพัฒนาพนักงานที่เป็นหัวใจหลักที่จะส่งมอบความรู้สึกดีดี ทุกวันให้กับลูกค้าของเรา อย่างยั่งยืนต่อไป”