บิ๊กโจ๊ก บินด่วนสระแก้ว ช่วยคนไทยถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีน หลอกผ่านเฟซบุ๊ค บังคับทำงานผิดกฎหมาย
จากกรณีปรากฏข่าวทางสื่อโซเชียลมีเดียและสื่อโทรทัศน์ต่างๆ ว่ามีคนไทยถูกหลอกลวงและบังคับให้ทำงานผิดกฎหมายในประเทศกัมพูชา และได้ร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยราชการไทยให้ช่วยเหลือเดินทางกลับประเทศไทย ผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดีย ตามที่ทราบแล้ว นั้น กรณีดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การช่วยเหลือเหยื่อคนไทยเป็นการเร่งด่วน พร้อมทั้งขยายผลถึงเครือข่ายผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกลุ่มองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้ถือโอกาสที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจในช่วงโควิด ๑๙ ซ้ำเติมประชาชน หลอกลวงไปบังคับใช้แรงงาน ทำงานผิดกฎหมายในต่างประเทศ ซึ่งการกระทำในลักษณะดังกล่าว อาจเข้าข่ายการค้ามนุษย์ กระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปในสังคม
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์รอง ผบ.ตร./ผู้อานวยการ ศพดส.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./ รองผู้อำนวยการ ศพดส.ตร. ประสานงานกับสถานทูตไทย ประจำประเทศกัมพูชา และผู้ช่วยทูตตำรวจไทย ประจำประเทศกัมพูชา จนกระทั่งสามารถช่วยเหลือคนไทยซึ่งถูกหลอกลวงกลับมาได้อย่างปลอดภัย จำนวน 60 คนหลังจากได้รับสั่งการจาก ผบ.ตร. ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง ส านักงานตำรวจแห่งชาติ(ศพดส.ตร.) ได้ประสานงานไปยังสถานทูตไทย ประจำประเทศกัมพูชา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การช่วยเหลือคนไทยกลุ่มนี้เป็นการด่วน
ล่าสุดวันนี้ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พลตำรวจโท สุรเชษฐ์หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.พร้อมคณะได้บินด่วน เดินทางมาที่สะพานมิตรภาพไทยกัมพูชา เพื่อรับตัวคนไทยจำนวน 60 คนแยกเป็นชาย 37 คนหญิง23 คน ที่ถูกเจ้าหน้าที่ ตร.ฝ่ายกัมพูชาช่วยออกมาจากบ่อนออนไลน์ในกรุงพนมเป็ญ และปอยเปต โดยมี พล.ต.เอก ซอม วัฒนะวีระ ผู้ช่วย ผบ.ตร.กัมพูชาพร้อมคณะนำเอาตัวคนไทยทั้ง 60 คนมาส่งให้ตรงบริเวณกลางสะพานมิตรภาพไทยกัมพูชา หลังจากคนไทยทั้งหมดเข้ามาฝั่งประเทสไทยและทุกคนจะต้อถูกตรวจสอบเอกสารการเดินทาง และถูกดำเนินคดีเดินทางเข้ามาในประเทศโดยผิดกฎหมาย จากนั้นก็จะต้องถูกดำเนินการตามระเบียบของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มงวด
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่าขบวนการดังกล่าวมีคนจีนเป็นหัวหน้า เคลื่อนไหวอยู่ในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยพฤติการณ์ จะมีการลงโฆษณารับสมัครงานบนสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ค กลุ่มไลน์ หลอกลวงว่ามีงานในประเทศกัมพูชา จ่ายค่าตอบแทนในอัตราที่สูง เดือนละ 20,000-30,000 บาท หลังจากมีผู้หลงเชื่อมาสมัคร ได้มีการว่าจ้างขบวนการนำพาคนเดินทางเข้า-ออกประเทศโดยผิดกฎหมายทางช่องทางธรรมชาติ โดยกลุ่มผู้เสียหายให้การว่า พวกตนต้องเดินเท้าผ่านป่าตามแนวตะเข็บชายแดนข้ามไปยังฝั่งประเทศกัมพูชา หลังจากนั้นจะมีรถมารับไปกักตัวที่โรงแรมแห่งหนึ่งไม่ทราบชื่อ ต่อมามีการส่งตัวต่อให้กับนายทุนชาวจีน บังคับให้ทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์, แก๊ง SMS หลอกลวง, เว็บไซด์รับพนันผิดกฎหมาย ซึ่งผู้ที่ถูกหลอกไป หลังจากทราบว่าไม่เป็นไปตามที่ตกลงกัน ทั้งในส่วนลักษณะงาน สวัสดิการและค่าตอบแทน จึงแจ้งกับนายจ้างขอเดินทางกลับ แต่ได้ถูกนายจ้างปฏิเสธ มีการเรียกร้องเอาทรัพย์สิน กักขัง ให้อดอาหาร และขู่ว่าจะทำร้ายร่างกาย เอาไปขายต่อให้นายจ้างเจ้าอื่น พวกตนจึงขอความช่วยเหลือจากทางการไทย จนกระทั่งได้รับการช่วยเหลือกลับมาอย่างปลอดภัย
ในเบื้องต้น หลังจากที่คนไทยกลุ่มนี้กลับเข้ามาแล้วจะต้องเข้ากักตัวตามของมาตรการสาธารณสุข หลังจากนั้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีการสอบปากคำผู้เสียหายทุกรายอย่างละเอียด เพื่อขยายผลดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทั้งหมด ทั้งในส่วนของผู้ชักชวน นายหน้า ผู้นำพา พร้อมทั้งประสานกับทางการกัมพูชาเพื่อดำเนินคดีกับนายจ้างชาวจีนต่อไปในการนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือสื่อมวลชนประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนได้ทราบถึงภัยด้วย
….จาก.ไตรรัตน์ มีวงษ์ จ.สระแก้ว…