หนักเข้าไปอีก ใช้รถตู้ ติดสติกเกอร์ รถนักเรียน ขนแรงงานกัมพูชาเพื่อตบตาจนท.และขยายผลพบอีก รวมแรงงาน 15 คน ผู้นำพาชาวไทย 3 คน สารภาพได้ค่าจ้างนำพาหัวละ5,000บาท นำส่งพื้นที่ชั้นใน กทม.

หนักเข้าไปอีก ใช้รถตู้ ติดสติกเกอร์ รถนักเรียน ขนแรงงานกัมพูชาเพื่อตบตาจนท.และขยายผลพบอีก รวมแรงงาน 15 คน ผู้นำพาชาวไทย 3 คน

สารภาพได้ค่าจ้างนำพาหัวละ5,000บาท นำส่งพื้นที่ชั้นใน กทม.

 


เจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันชายแดนกองกำลังพร้อมจนท.ตชด.ที่ 12 สกัดจับแก๊งขนแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาใช้ รถตู้ ติดสติกเกอร์ รถนักเรียน ตบตาเจ้าหน้าที่ โดยถอดเบาะออกและให้แรงงานกัมพูชานอนมาเต็มรถ หลังคนขับรถตู้รับนักเรียนสารภาพว่า ยังมีแรงงานรอการขนส่งที่ท้ายหมู่บ้านอีกเช่นกัน รวม 15 คน พร้อมผู้นำพาชาวไทย 3 ราย ค่าหัวคนละ 5,000 บาท จะนำส่ง กทม.ชลบุรี,ระยอง

พลตรี อมฤต บุญสุยา ผบ.กกล.บูรพา สั่งการให้กองกำลังป้องกันชายแดนของกองกำลังบูรพา ออกตรวจตราให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น โดยปัญหาการลักลอบเข้าเมืองและการนำสิ่งของผิดกฎหมายเข้า-ออก บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในช่วงสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้สกัดกั้นและป้องกันการทำผิดกฏหมายทุกรูปแบบในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว

ต่อมาช่วงเช้ามืดวันนี้ที่ 14 พ.ย.64 เจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ตาพระยา กองกำลังบูรพา เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 โดยพ.ต.อ.ฐาปนนท์ หน่องพงษ์ ผกก.ตชด.ที่ 12 ,พ.ต.ท.จิรวัฒน์ รางสาตร์ ผบ.ร้อย ตชด.126 ร่วมกับ จนท.ตำรวจ สภ.โคกสูง ได้ออกลาดตระเวน บนถนนสายอรัญ-โคกสูง ได้ตรวจพบ รถยนต์ตู้โตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน นข-3462 สระแก้ว กระจกด้านหน้าติดสติกเกอร์ รถนักเรียน วิ่งมาจึงได้แสดงตัวขอตรวจค้น พบนายสำฤทธิ์ บัวผัน อายุ 47 ปี ที่อยู่ 205 ม. 02 ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เป็นคนขับและนางรัสมี คำสิงห์ อายุ 49 ปี ที่อยู่ 6 ม.5 ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว นั่งมาด้วย เมื่อตรวจสอบภายในรถตู้ พบว่า มีแรงงานชาวกัมพูชา นอนเรียงรายกันอยู่ภายในรถ โดยได้มีการถอดเบาะออกและให้แรงงานนอนมาภายในรถเต็มคัน จำนวน7 คน


นายสำฤทธิ์ฯ และนางรัสมีฯ ผู้นำพาชาวไทย ให้การว่า ตนได้รับว่าจ้าง จากนางหนูแดง ให้ไปรับชาวกัมพูชาที่บริเวณกระท่อมท้ายหมู่บ้านกุดผือ ม.4 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง โดยให้ไปส่งที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี และกรุงเทพฯ ในราคาหัวละ 5,000บาทต่อคน และยังมีแรงงานรอการขนถ่ายที่กระท่อมท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นกระท่อมของ นางหนูแดง หรือนัย ภู่รับ อีกเช่นกัน จนท.ทั้งหมดจึงได้ขยายผลติดตามไปที่บ้านหลังดังกล่าว พบนายวีระ ดวงพร อายุ 40 ปี ที่อยู่ 47/1 ม.6 ต.ขอนแตก อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ผู้นำพาคนไทย พร้อมรถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า สีดำ หมายเลขทะเบียน 1ฒว-4558 กรุงเทพฯ จำนวน 1 คัน ขณะกำลังขนบรรทุกแรงงานกัมพูชามาด้วย จำนวน 8 ราย ซึ่งชาวกัมพูชาทั้งหมด ยอมรับว่า ได้เดินเท้าเข้ามาจากประเทศกัมพูชาทางช่องทางธรรมชาติ บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อมารอขึ้นรถที่กระท่อม นางหนูแดงหรือนัย ภู่รับ บริเวณท้ายหมู่บ้านกุดผือ ม.4 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยเสียเงินค่าเดินทางให้กับนายหน้าที่ปลายทางคนละ 5,000 บาท จากนั้นจึงได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิเป็นปรกติ และได้แจ้งข้อหากลุ่มแรงงานชาวกัมพูชา ในการกระทำผิดฐาน“เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”

ส่วนผู้นำพาชาวไทยนายสำฤทธิ์,นางรัสมี,นายวีระ,ทั้ง3 คน ซึ่งนายวีระฯ ให้การรับสารภาพว่า ตนมาเพื่อรอรับชาวกัมพูชาเพื่อไปส่งที่กรุงเทพฯ โดยจะเดินทางในช่วงเช้า ได้ค่าจ้างจาก นายเชน นายหน้าชาวกัมพูชา ประมาณครั้งละ 10,000 บาท แต่มาถูกจับเสียก่อน จนท.ได้แจ้งในข้อหา ร่วมกันช่วยเหลือด้วยประการใดๆอันตนรู้ว่าเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตให้พ้นจากการจับกุม และกระทำผิดฐาน ร่วมกันมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการ แพร่เชื้อโรคตามข้อกำหนดในมาตรา 9 ฉบับที่ 1 ข้อ 5 แห่ง พรก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ด้วยเช่นกัน จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด และแรงงานชาวกัมพูชา ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.โคกสูง ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป

…..จาก.ไตรรัตน์ มีวงษ์ จ.สระแก้ว…