แม่ทัพภาค 1 มีคำสั่ง เร่งติดตามขบวนการขนเขมร ที่เหตุรถคว่ำตาย 5 ศพ บริษัทกลางคุ้มครองฯ มอบสินไหมคนขับชาวไทยที่เสียชีวิต 3 หมื่น 5 พัน เป็นค่าปรงศพ ส่วนชาวกัมพูชาที่เสียชีวิต จะได้ 5 แสนบาท

แม่ทัพภาค 1 มีคำสั่ง เร่งติดตามขบวนการขนเขมร ที่เหตุรถคว่ำตาย 5 ศพ

บริษัทกลางคุ้มครองฯ มอบสินไหมคนขับชาวไทยที่เสียชีวิต 3 หมื่น 5 พัน เป็นค่าปรงศพ ส่วนชาวกัมพูชาที่เสียชีวิต จะได้ 5 แสนบาท

 

จากกรณีที่ได้เกิดอุบัติเหตุ รถขนแรงงานเถื่อน ชนเสาไฟฟ้าและมีผู้เสียชีวิต 5 ศพ บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านคลองยายอินทร์ ม.3 ต.วังทอง อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ด้านแม่ทัพภาคที่ 1 มีคำสั่งให้เร่งขยายผลจับกุมขบวนการขนแรงงานชาวกัมพูชา ก่อนที่รถจะประสบอุบัติเหตุและเสียชีวิต 5 คน บาดเจ็บอีก 8 คนที่จังหวัดสระแก้ว โดยเน้นย้ำให้หน่วยงานด้านความมั่นคง ทั้งในจังหวัดสระแก้วและจังหวัดจันทบุรี เร่งติดตามจับกุมขบวนการนี้เหล่านี้มาดำเนินคดีให้ได้ รวมทั้งเตรียมดำเนินคดีนายจ้างที่อยู่ปลายทาง ขณะที่หญิงกัมพูชาที่เสียชีวิต ได้รับการยืนยันแล้วว่าติดเชื้อโควิด 19 จนต้องสั่งกักตัวเจ้าหน้าที่กู้ภัยขณะออกเหตุกว่า 20 คน

ความคืบหน้า หลังเกิดอุบัติเหตุรถกระบะอีซูซุ แวน สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน อร-4551 กรุงเทพฯ ที่มีนายประวิทย์ จันสว่าง อายุ 39 ปี ภูมิลำเนาเป็นชาวจังหวัดชัยภูมิ คนขับที่ได้ลักลอบขนแรงงานกัมพูชาเข้าไปทำงานยังพื้นที่ชั้นใน แต่เกิดอุบัติเหตุพุ่งชนวงเวียนบ้านคลองยายอินทร์ หมู่ 3 ตำบลวังทอง อำเภอวังสมบูรณ์ จังหวัดสระแก้ว เมื่อเวลาประมาณ 3 ทุ่ม ของคืนเมื่อวันอังคารที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จนทำให้นายประวิทธิ์ฯ คนขับรถเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที พร้อมกับแรงงานกัมพูชาอีก 5 คน เป็นชาย 2 หญิง 3 คน และยังมีแรงงานกัมพูชาที่ลักลอบข้ามแดนนั่งไปในรถคันเดียวกันอีก 8 คน เป็นชาย 7 คนหญิง 1 คน โดยทั้ง 8 คนนี้ มีอาการบาดเจ็บจนต้องส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว เร่งให้การรักษา ส่วนอีก 4 คนที่เหลือบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งอยู่ในการควบคุมตัวของตำรวจภูธรวังสมบูรณ์อยู่ในขณะนี้


ล่าสุด พลโท.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง แม่ทัพภาคที่ 1 ได้กำชับหน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งในจังหวัดสระแก้วและจันทบุรี เร่งสืบสวนและขยายผลถึงขบวนการลักลอบขนแรงงานกลุ่มนี้ ตั้งแต่กระบวนการลักลอบข้ามแดน จุดพักคอยทั้งในป่าและในเมือง เส้นทางที่ใช้ขนแรงงาน จนไปถึงสถานประกอบการที่เป็นปลายทางของแรงงานเหล่านี้ ซึ่งจะต้องมีการดำเนินคดีในขั้นต่อไป

ขณะเดียวกัน ทางกงสุลใหญ่กัมพูชา ประจำประเทศไทย ได้ส่งนายเนียน เจ้าหน้าที่ประจำสถานกงสุล เข้าตรวจสอบอัตลักษณ์แรงงานชาวกัมพูชาทั้งหมด โดยเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่กัมพูชา ประจำประเทศไทยพร้อมร้อยเอกทัศนา ดวงรัตน์ เจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสระแก้ว เดินทางเข้าพูดคุยกับแรงงานกัมพูชาก่อนจะยืนยันกับทีมข่าวของเราว่า แรงงานกัมพูชาจากอุบัติเหตุครั้งนี้ มาด้วยกันทั้งหมด 12 คน เป็นชาย 8 คน หญิง 4 คน พร้อมคนขับเป็นคนไทย ภูมิลำเนาจังหวัดชัยภูมิ / หลังเกิดอุบัติเหตุ มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที 5 คน คือคนขับรถ 1 คน แรงงานกัมพูชาอีก 4 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 3 คน และเสียชีวิตอีก 1 ที่โรงพยาบาล รวมผู้เสียชีวิตทั้งหมด 6 คน ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส 4 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 1 คน ขณะนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ส่วนอีก 4 คนที่เหลือ เป็นแรงงานกัมพูชาชายทั้งหมด มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย อยู่ในการควบคุมตัวของตำรวจภูธรวังสมบูรณ์ / ซึ่งในขณะนี้ เจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่กัมพูชาประจำประเทศไทย สามารถยืนยันตัวบุคคลได้แล้ว 8 คน จากการติดต่อกับญาติชาวกัมพูชาที่เสียชีวิตที่ทำงานอยู่ในจังหวัดสมุทรสาครและปราจีนบุรี ส่วนผู้เสียชีวิตทั้งคนไทยและกัมพูชา ส่งตัวไปยังสถาบันนิติเวช เพื่อยืนยันอัตลักษณ์ที่ชัดเจนอีกครั้ง


ต่อมาเช้าวันนี้ (4 พ.ย.) ทางเจ้าหน้าที่จากสถานกงสุลใหญ่กัมพูชาประจำประเทศไทย ได้สวมชุดพีพีอี เข้าไปพูดคุยรวมทั้งสอบถามรายละเอียดที่เกิดขึ้นจากแรงงานกัมพูชากลุ่มนี้ ภายในโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว เบื้องต้นพบว่า ส่วนใหญ่เดินทางมาจากจังหวัดพระตะบอง จะเข้าไปทำงานยังโรงงานไก่ ของบริษัทชื่อดัง ที่อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ทั้งหมดลักลอบข้ามแดนเข้ามาทางด้านอำเภอบ้านแหลมจังหวัดจันทบุรี มีรถรับส่งจากชายแดนด้านจังหวัดจันทบุรี เข้ามาพักคอยยังพื้นที่ชั้นใน ภายในบ้านพักหลังหนึ่ง อยู่ระหว่างเขตรอยต่อจังหวัดสระแก้วและจังหวัดจันทบุรี ก่อนจะมีกลุ่มชายฉกรรจ์ 3-5 คน เฝ้าหน้าประตูไม่ให้ออกไปข้างนอก เพื่อรอขึ้นรถอีกต่อหนึ่งเข้าไปยังพื้นที่ชั้นในตามจุดนัดหมาย โดยหนึ่งในแรงงานที่รอดชีวิต ยอมรับว่า ก่อนจะขึ้นรถคันที่เกิดอุบัติเหตุ มีรถอีก 2 คัน ได้รับแรงงานไปส่งยังพื้นที่ชั้นในก่อนหน้านี้แล้ว หลังจากขึ้นรถได้ประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้น รถก็เกิดอุบัติเหตุ แรงงานกัมพูชายังบอกอีกว่า จ่ายเงินเป็นค่าเดินทางหัวละ 7,000 บาท ขณะที่การยืนยันตัวตนของแรงงานกัมพูชากลุ่ม สามารถยืนยันได้แล้ว 8 คน อยู่โรงพัก 4 เป็นชายทั้งหมด  โดยรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล 4 คน และยังไม่ทราบชื่ออาการสาหัสอีก 1 คน ส่วนคนตายทั้ง 4 คน  3 คนเป็นชาย 1 คน หญิง 2 คนยังไม่ทราบชื่อ และยืนยันว่า หญิงกัมพูชาที่ตายแล้วติดเชื้อโควิด 1 คน และทางสถานกงสุลใหญ่กัมพูชาประจำประเทศไทย จะเข้าขอข้อมูลและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากตำรวจภูธรวังสมบูรณ์ เพื่อที่จะยืนยันตัวตนอีก 4 คน ให้ครบทั้งหมด 12 คน ซึ่งมีรายงานว่า ขณะนี้ตำรวจกองกำกับสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ได้ประสานไปยังหน่วยนาวิกโยธิน ที่จังหวัดจันบุรี ลงพื้นที่ในการขยายผลถึงเส้นทาง จุดพักคอยต่างๆ รวมถึงกระบวนการตั้งแต่ต้นทางไปถึงปลายทางทั้งหมดแล้ว

ต่อมาเวลา 13.30น.นางสาวสุภาภรณ์ สำเภารัตน์ ผู้จัดการบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสพภัยจากรถสระแก้ว ได้เดินทางมาที่สภ.วังสมบูรณ์ พร้อมเปิดเผยว่าทางบริษัทกลางฯได้มอบสินไหมทดแทนให้กับผู้เสียชีวิตชาวไทยจำนวน 35,000 บาท เป็นค่าปรงศพ และในส่วนของชาวกัมพูชา เราต้องรอเอกสารการตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลจากทางสถานกงสุลกัมพูชารับรองบุคคลมาให้ ซึ่งถ้าชัดเจน ผู้เสียชีวิตจะได้รับค่าสินไหมทดแทน 5 แสนบาท ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจะได้ 8 หมื่นบาท /จากนั้นจึงได้มอบเงินกรมธรรม์ประกันภัยผ่านทางพ.ต.อ.กฤษฎ์นิธิทัต พงธนณัชเมธาพร ผกก.สภ.วังสมบูรณ์ ให้กับนางทองสุข กลั่นกลาง อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 69 ม.1 ต.ท่ามะไฟหวาน อ.แก้งคล้อ จ.ชัยภูมิ มารดาของนายประวิทย์ จันสว่าง คนขับรถยนต์ที่เสียชีวิต โดยทางนางทองสุขฯมารดาได้เดินทางมาติดต่อเรื่องศพ พร้อมกล่าวเบื้องต้นว่า จะนำศพบุตรชายนายประวิทย์ฯไปไว้ที่วัดเนินทอง อ.ไพสาลี จ.นครสวรรค์ และจะทำการฌาปนกิจศพในวันอาทิตย์ที่ 7 พ.ย.นี้

….จาก.ไตรรัตน์ มีวงษ์ จ.สระแก้ว….