เปิดยุทธการ ไล่ล่า ขบวนการ ตัดไม้”ประดู่ ชิงชัน” ฝั่งไทย ถีบส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน ผอ.สำนักฯ 11 ระบุ พบแหล่งตัดไม้ บนยอด”ภูสอยดาว”เขตรอยต่อพิษณุโลก-อุตรดิตถ์แนวตะเข็บชายแดน

เปิดยุทธการ ไล่ล่า ขบวนการ ตัดไม้”ประดู่ ชิงชัน” ฝั่งไทย ถีบส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน

ผอ.สำนักฯ 11 ระบุ พบแหล่งตัดไม้ บนยอด”ภูสอยดาว”เขตรอยต่อพิษณุโลก-อุตรดิตถ์แนวตะเข็บชายแดน

 

เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 64 นายโกเมศ พุทธสอน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 นายบุญชู ไกรคง ผอ.ส่วนอนุรักษ์และป้องกันฯ นายวชิรศักดิ์ นาควัฒนเศรษฐ์ ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ นายศักดิ์ปรินทร์ สุรารักษ์ หน.ชุดปฏิบัติการพิเศษสำนักอนุรักษ์ 11 นายวัชรพล แซ่เจี่ย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว  ร่วมกันปล่อยแถวกำลังพลจนท.พิทักษ์ป่าและตชด.31 เกือบ 100 นาย ที่ อช.ภูสอยดาว ตามแผนบูรณาการป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้ประดู่ ชิงชัน บริเวณอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าภูป่าภูสันเขียว บริเวณพื้นที่ชายแดน ประเทศไทย-สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในเขตรอยต่อ อ.บ่อภาค จ.พิษณุโลกและ อ.บ้านโคก อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ หลังจากสืบทราบว่า มีการลักลอบตัดไม้ ซ้ำซากบริเวณพื้นที่เดิมๆในเขตป่าดิบที่มีความอุดมสมบูรณ์


นายโมเมน พุทธสอน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11กล่าวว่า พฤติกรรมของผู้ลักลอบตัดไม้จะมีการตัดเส้นทาง เพื่อเข้ามาลักลอบตัดและแปรรูปไม้มีค่าในฝั่งประเทศไทย และชักลากไม้กลับไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน และพบว่า เลือกไม้ประดู่และไม้ชิงชันแปรรูป วัดขนาดไม้ แล้วเป็นการสั่งตัดแปรรูปไม้ตามความต้องการของตลาด ลักษณะของการกระทำเป็นรูปแบบของนายทุน ลักษณะเป็นไม้ท่อนยาวขนาด 1.5 เมตร หนา 3 นิ้ว ราคาซื้อขายประมาณ 2 หมื่นบาท หากไม้ถูกส่งไปขายยังต่างประเทศ สามารถจำหน่ายได้ราคาเพิ่มอีกหลายเท่าตัว เรียกว่า เป็นไม้มีมูลค่าสูงมาก จึงถูกชั่งน้ำหนักขายเป็นกิโลกรัมเช่นไม้ประดู่และชิงซัน ทำให้ผู้ลักลอบกระทำผิดกฎหมายเพิ่มขึ้น แม้ จนท.จับกุมได้บ่อยครั้ง กระทั่งสืบทราบพบว่า ไม้เถื่อนดังกล่าว ถูกตัดในเขตรอยต่อจังหวัดพิษณุโลก-อุตรดิตถ์ตามแนวเขตตะเข็บชายแดน ซึ่งยืนยันว่า ไม้ดังกล่าวถูกตัดในเขตประเทศไทยไทยและส่งขายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ฉะนั้นทางสำนัก 11 จึงจำเป็นต้องสกัดกั้นและหยุดยั้งขบวนการตัดไม้ดังกล่าวให้เป็นไปตามนโยบายขอวรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ


นายบุญชู ไกรคง ผอ.ส่วนป้องกัน ได้มอบแนวทางปฎิบัติต่อเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าว่า การลาดตะเวนครั้งนี้ เพื่อปกป้องทรัพยากรป่าไม้และสำหรับอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่จะใช้เฉพาะที่จำเป็นเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น และย้ำว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้ทุกท่านคือผู้เสียสละ อุทิศกายและใจอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของคนไทยไว้ และขอให้ระมัดระวังในการลาดตะเวนและการใช้ชีวิตกินนอนอยู่ในป่า ให้ทำประโยชน์แก่คนรุ่นหลังซึ่งเป็นลูกเป็นหลานและเป็นอนาคตของชาติไทยของเราสืบไป

เอนก ธรรมใจ รายงาน