“ฝนหลวงฯ เร่งเติมน้ำลงเขื่อนแม่กวงอุดมธารา รองรับการใช้น้ำของนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จ.ลำพูน”
วันที่ 20 กันยายน 2564 เวลา 10.30 น. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (19 ก.ย. 2564) กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้มีการลงพื้นที่บริเวณภาคเหนือเพื่อติดตามสถานการณ์ปริมาณน้ำที่เขื่อนแม่กวงอุดมธารา อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้ มีปริมาณเก็บกักน้ำในเขื่อนเพียง 53 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 20.4 ของความจุปริมาณน้ำใช้การของเขื่อนในสถานการณ์น้ำในเขื่อนที่มีลักษณะอยู่ในเกณฑ์น้อยเช่นนี้ จึงต้องมีการบริหารจัดการในฤดูแล้งที่จะมาถึง ด้วยการขอความร่วมมือให้พี่น้องเกษตรกรในพื้นที่เขตชลประทานของเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ต้องรณรงค์งดการทำนาปรัง และสำหรับวันนี้ได้มีการลงพื้นที่ต่อเนื่องมาที่นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จ.ลำพูน เพื่อรับฟังการบริหารจัดการน้ำ โดยที่นิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้จะมีสถานีสูบน้ำเพื่อนำน้ำจากเขื่อนแม่กวงอุดมธาราเข้าเก็บที่บ่อพักน้ำ ที่มีขนาดความจุ 500,000 ลูกบาศก์เมตร โดยมีปริมาณน้ำที่ใช้ได้ 400,000 ลูกบาศก์เมตร ในกรณีที่บางปีประสบปัญหาภัยแล้งปริมาณน้ำไม่เพียงพอ ทางกรมชลประทานจะผันน้ำจากแม่น้ำปิงมายังแม่น้ำแม่กวง เพื่อสูบเข้าไปใช้ ในการประปา ขณะเดียวกันก็ยังมีการขุดบ่อน้ำบาดาล จำนวน 3 บ่อ เพื่อใช้การด้วยแต่คุณภาพของน้ำบ่อบาดาล ต้องมีการบำบัดคุณภาพน้ำก่อนที่จะส่งไปผลิตน้ำประปาใช้ในเขตนิคมอุตสาหกรรมได้
อย่างไรก็ตาม ทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้รับทราบถึงความต้องการใช้น้ำจากเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ที่ใช้ในการทำอุตสาหกรรม เพื่อเร่งปฏิบัติการเติมน้ำลงเขื่อนให้มากที่สุด ซึ่งคาดว่าจะมีสภาพอากาศที่เอื้อต่อการปฏิบัติการได้ถึงสิ้นเดือนตุลาคมนี้ ขณะเดียวกันด้านการปฏิบัติการฝนหลวงในภูมิภาคต่างๆ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยังคงร่วมกับกองทัพอากาศและกองทัพบก โดยที่เมื่อวานนี้ได้มีการบินปฏิบัติการจำนวน 9 หน่วยปฏิบัติการ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของ จ.พะเยา ลำปาง สระบุรี ลพบุรี นครสวรรค์ กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ มหาสารคาม เพชรบุรี เพิ่มปริมาณน้ำ เก็บกักให้เขื่อนกิ่วคอหมา เขื่อนแม่กวงอุดมธารา เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ อ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ อ่างเก็บน้ำมวกเหล็ก อ่างเก็บน้ำกระเสียว อ่างเก็บน้ำห้วยเทียน และอ่างเก็บน้ำบึงกระโดน
นายสุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมว่า แผนที่อากาศผิวพื้นของกรมอุตุนิยมวิทยา ณ เวลา 01.00 น. มีหย่อมความกดอากาศต่ำในประเทศเวียดนามตอนใต้ ประเทศกัมพูชา ประเทศพม่า และใกล้กับประเทศไทย ทำให้มีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยทางภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ส่งผลให้ประเทศไทยในขณะนี้มีโอกาสเกิดฝนตกค่อนข้างมากบริเวณพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ อย่างไรก็ตามยังมีพื้นที่ประสบปัญหาอุทกภัยในเรื่องน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินสไลด์ ในปัจจุบันได้เข้าสู่สถานการณ์ปกติจำนวน 10 จังหวัด ยังคงเหลืออีก 4 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร ชัยภูมิ นครราชสีมา พระนครศรีอยุธยา ในขณะบางพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วง มีจำนวน 6 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ พิจิตร นครสวรรค์ สิงห์บุรี สระบุรี และฉะเชิงเทรา สำหรับผลการตรวจสภาพอากาศจากสถานีเรดาร์ฝนหลวงทั่วประเทศในช่วงเช้าวันนี้ พบว่า สภาพอากาศเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 2 หน่วยฯ ได้แก่ หน่วยฯเชียงใหม่ พื้นที่เป้าหมายหลัก : พื้นที่การเกษตร จ.พะเยา จ.ลำปาง และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เขื่อนแม่กวงอุดมธารา เขื่อนกิ่วคอหมา เขื่อนกิ่วลม พื้นที่เป้าหมายรอง : พื้นที่การเกษตร จ.เชียงใหม่ และพื้นที่ลุ่มรับน้ำ และหน่วยฯ จ.ตาก พื้นที่เป้าหมายหลัก : พื้นที่การเกษตร จ.ลำปาง และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนภูมิพล พื้นที่เป้าหมายรอง : พื้นที่ลุ่มรับน้ำอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่มีปริมาณต่ำกว่า 30%
ทั้งนี้ จะหลีกเลี่ยงการปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่มีน้ำท่วมขังหรือพื้นที่ที่ไม่มีความต้องการน้ำเพิ่มเติมแล้ว อย่างไรก็ตามอีก 11 หน่วยฯ ยังคงติดตามสภาพตลอดทั้งวัน หากมีการเปลี่ยนแปลงและเข้าเงื่อนไข
การปฏิบัติการฝนหลวง จะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายทันที โดยพี่น้องเกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ที่ช่องทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100