ชป.ลุยช่วยพื้นที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงตลอด 24 ชั่วโมง

ชป.ลุยช่วยพื้นที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงตลอด 24 ชั่วโมง

 

กรมชลประทาน เดินหน้าให้ความช่วยเหลือพื้นที่ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง สั่งเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำและพื้นที่เสี่ยง 24 ชั่วโมง ควบคู่ไปกับการเก็บกักน้ำสำรองไว้ใช้ในฤดูแล้งหน้าให้ได้มากที่สุด ก่อนสิ้นสุดฤดูฝน ส่วนสถานการณ์น้ำที่ จ.สมุทรปราการ ปัจจุบันเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง ส่งผลให้ระดับน้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติเพิ่มสูงขึ้นเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่ง โดยก่อนหน้านี้กรมชลประทาน ได้กำชับให้โครงการชลประทานทุกแห่งดำเนินการตามแผนป้องกันอุทกภัยที่ได้วางไว้ ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำในแต่ละพื้นที่ ตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจพื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเสียหาย และช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ ควบคู่ไปกับการเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งหน้าให้ได้มากที่สุด

สำหรับการช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม ปัจจุบันกรมชลประทาน ได้ให้ความช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมในหลายพื้นที่ อาทิ ที่จังหวัดสุโขทัย ส่วนเครื่องจักรกล สำนักงานชลประทานที่ 4 ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำที่หมู่ 1 ต.คลองยาง อ.สวรรคโลก เพื่อเตรียมสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่หากเกิดสถานการณ์ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดเสี่ยงเกิดอุทกภัย พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา

ที่ จ.พิษณุโลก สำนักงานชลประทานที่ 3 ดำเนินการกำจัดผักตบชวาและวัชพืชที่กีดขวางทางน้ำอยู่เป็นจำนวนมากตลอดแนวคลองระบายน้ำ DL.1-7R อ.พรหมพิราม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำรองรับฤดูน้ำหลาก และเป็นไปตามแผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำโครงการป้องกันและบรรเทาภัยจากน้ำ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ ในช่วงปลายเดือนกันยายน 2564 นี้

ที่ จ.ลพบุรี สำนักงานชลประทานที่ 10 เข้าติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ 2 เครื่อง บริเวณหมู่ 5 ต.หัวสำโรง อ.ท่าวุ้ง เพื่อสูบระบายน้ำออกจากนาข้าวที่เกิดน้ำท่วมขัง รวมพื้นที่ประมาณ 1,000 ไร่ นอกจากนี้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามหาราช ทำการกำจัดวัชพืชบริเวณประตูระบายน้ำปลายแม่น้ำลพบุรี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำในช่วงฤดูน้ำหลากนี้อีกด้วย

ส่วนที่ จ.ฉะเชิงเทรา โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระองค์ไชยานุชิต ได้นำเรือนวัตกรรมขนาดเล็ก เข้าเก็บวัชพืชบริเวณด้านหน้าประตูระบายน้ำบางขนาก และ สถานีสูบน้ำบางขนาก 2 ต.บางขนาก อ.บางน้ำเปรี้ยว เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำส่วนเกินในพื้นที่ออกสู่แม่น้ำบางปะกงให้เร็วที่สุด

ทั้งนี้ กรมชลประทาน จะดำเนินการช่วยเหลือพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ หากประชาชนหรือหน่วยงานต้องการความช่วยเหลือ ติดต่อสอบถามได้ที่โครงการชลประทานในพื้นที่ใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา