สุดชั่ว!! ลูกทรพีข่มขืนแม่ตัวเอง ทำร้ายพ่อแท้ๆ จนต้องไปอาศัยอยู่ที่สวนยางพารา
เมื่อวันที่ 11กันยายน 64 พ.ต.ท.สนธศักดิ์ สร้อยผาบ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.ดงหลวง พร้อมด้วยตำรวจ สภ.ดงหลวง เข้าจับกุมพร้อมนำตัวนายสิทธิชัย อายุ 35 ปี เข้าสอบปากคำหลังจากชายคนดังกล่าวก่อเหตุข่มขืนแม่ของตัวเอง โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าเวลา 03.30 น.วันที่11 กันยายน 64 โดยช่วงเวลาดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการแจ้งจากผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ต.พังแดง อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ว่ามีเหตุทะเลาะวิวาท ที่บ้านเลขที่ 115 หมู่2 ต.พังแดง อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร จึงลงพื้นที่ตรวจสอบได้พบกับนางเหวย วิ่งออกมาจากบ้านพร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าถูกลูกชาย ได้ทำการข่มขืนตนอยู่ในบ้าน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน พบผู้ก่อเหตุยืนอยู่ภายในบ้าน สวมใส่กางเกงขาสั้นตัวเดียว พูดจาไม่รู้เรื่องเจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการเกลี้ยกล่อมก่อนจะยอมมอบตัวในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวสอบปากคำที่ สภ.ดงหลวง
เวลาต่อมา แม่ผู้ก่อเหตุ อายุ 55 ปี ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อที่จะดำเนินคดีกับลูกชายของตนเอง พร้อมกับเข้าตรวจร่างกายเบื้องต้นที่โรงพยาบาลดงหลวง อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เพื่อที่จะนำหลักฐานการตรวจร่างกายจากโรงพยาบาลมาส่งมอบให้กับตำรวจ
ด้าน พ.ต.ท.สนธศักดิ์ สร้อยผาบ รอง ผกก(สอบสวน) สภ.ดงหลวง เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องตนผู้ต้องหาได้ปฏิเสธว่า ไม่ได้กระทำแม่ของตนเอง จำได้แค่ว่าช่วงเวลาดังกล่าวตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำแต่ทางตำรวจชุดสืบสวนยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะทางแม่ยืนยันว่าลูกชายได้กระทำจริง โดยทางร้อยเวรได้ประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์แล้ว
เพื่อนบ้าน เล่าว่า “ปกติแล้ว ผู้ก่อเหตุ อยู่บ้านกับหลาน 2 คน พร้อมกับแม่ รวมแล้วอยู่ที่บ้าน 4 คน ซึ่งพ่อและพี่ชายของผู้ก่อเหตุอาศัยอยู่ที่สวนยางพาราจะเข้ามาบ้านเป็นบางครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 64 นายสิทธิชัย ได้ทำร้ายพ่อแท้ๆของตนเองจนพ่อไม่สามารถเข้ามาอยู่ที่บ้านได้ ต้องไปอาศัยอยู่ที่สวนยางพารา ส่วนวันเกิดเหตุ แม่ได้เล่าให้ตัวเองฟังว่า ลูกชายของตนเองได้เดินแก้ผ้ามาจากบนบ้านแล้วเข้ามาข่มขืน โดยการจับแขนทั้ง 2 ข้างแล้วถอดกางเกงก็ข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ จนแม่ได้ไปขอความช่วยเหลือตน ก่อนจะไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านพร้อมประสานตำรวจมาจับตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อที่จะทำการเอาผิดกับผู้ก่อเหตุ เพราะผู้ก่อเหตุยังคงให้การยืนยันว่าตัวเองไม่ ได้ก่อเหตุดังกล่าว”
ไกรสมุทร นามโพธิ์ไทร/รายงานจากมุกดาหาร