จ.อุตรดิตถ์ จัดเจริญพระพุทธมนต์สมโภชพระแท่นศิลาอาสน์เฉลิมพระเกียรติในหลวง
เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 เวลา 09.09 น. ณ พระวิหารหลวงวัดพระแท่นศิลาอาสน์ พระอารามหลวง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดอุตรดิตถ์โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชพระแท่นศิลาอาสน์ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวิชรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2564 เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายพระราชกุศลแด่พระองค์ท่าน รวมทั้งเพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และเป็นการรักษาสืบสานประเพณีพิธีกรรมทางศาสนาอันดีงามให้ยั่งยืนควบคู่สถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ โดยมีเจ้าคุณ พระวินัยสาทร เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ – พิษณุโลก เจ้าอาวาสวัดพระแท่นศิลาอาสน์ พระอารามหลวง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และมีนายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมฝ่ายศาล ทหาร ตำรวจ พลเรือน ท้องถิ่น และวัฒนธรรมจังหวัดพร้อมคณะเข้าร่วมพิธี ภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 อย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ นายสุรพันธ์ เจริญทรัพย์ วัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากในช่วงเดือนกรกฎาคม ถึงสิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา พื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์เกิดการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 เพิ่มขึ้นและยังไม่มีการผ่อนคลายการรวมคนหมู่มากในการจัดกิจกรรม และตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 เป็นต้นมา ทางรัฐบาลเริ่มผ่อนคลายการจัดกิจกรรมการรวมคน จังหวัดอุตรดิตถ์จึงกำหนดจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชพระแท่นศิลาอาสน์ดังกล่าวขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้งเป็นการน้อมรำลึกและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อประชาชนชาวไทย โดยเฉพาะประชาชนชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งพระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินมาทรงงานช่วยเหลือประชาชนถึงจำนวน 5 ครั้ง รวมถึงเสด็จพระราชดำเนินมาทรงประกอบพิธียกช่อฟ้าวิหารหลวงพระแท่นศิลาอาสน์ด้วย เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2550 ซึ่งพระแท่นศิลาอาสน์ถือเป็นโบราณสถาน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และสถานที่สำคัญทางศาสนาของจังหวัดอุตรดิตถ์ดังปรากฎสัญลักษณ์รูปมณฑปพระแท่นศิลาอาสน์ บนตราสัญลักษณ์ประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ จึงถือเป็นการแสดงความจงรักภักดีและเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ร่วมกันของประชาชนคนอุตรดิตถ์ อันเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนงานตามนโยบายของกรมการศาสนา และกระทรวงวัฒนธรรม
เอนก ธรรมใจ
รายงาน