ทหารพรานกองทัพภาคที่ 3 มอบกล้าสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ต้านโรคโควิด-19 เพื่อประชาชน

ทหารพรานกองทัพภาคที่ 3 มอบกล้าสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ต้านโรคโควิด-19 เพื่อประชาชน

 

วันที่ 9 กันยายน 2564 กองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 แถลงข่าวประชาสัมพันธ์ ประจำสัปดาห์ ครั้งที่ 149 ศูนย์เสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยมี พันเอก รุ่งคุณ มหาปัญญาวงศ์ โฆษกกองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 เป็นผู้แถลงข่าวฯ มีสาระสำคัญดังนี้.-
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่อย่างรุนแรงในช่วงเดือนเมษายน 2564 กองทัพภาคที่ 3 จึงได้มอบหมายให้ หน่วยทหารในพื้นที่ภาคเหนือ ริเริ่มปลูกพืชสมุนไพรฟ้าทะลายโจร เพื่อนำไปเป็นยารักษาโรคโควิด-19 โดยมีวัตถุประสงค์ในการดำเนินการดังนี้
1) เพื่อขยายพันธุ์เพิ่ม สำหรับปลูกทดแทนและขยายพื้นที่การปลูก รวมทั้งเพื่อมอบต้นกล้าฟ้าทะลายโจร แก่กำลังพล, ครอบครัว, ประชาชนทั่วไป รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ ที่สนใจนำไปเป็นยาสมุนไพรรักษาโรคโควิด-19
2) เพื่อนำฟ้าทะลายโจรไปแปรรูปเป็นยาแคปซูลฟ้าทะลายโจรรักษาโรคโควิด-19 โดยร่วมกับหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีสถานที่และเครื่องมือการแปรรูปที่ได้มาตรฐาน
ในการนี้ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 กองกำลังนเรศวร ได้ดำเนินขยายผลการใช้สมุนไพร โดยได้มอบและแจกจ่ายต้นกล้าสมุนไพรฟ้าทะลายโจร เพื่อสืบสาน ขยายพันธุ์ สมุนไพรและต่อยอด รวมถึงใช้ประโยชน์ในการป้องกัน และรักษาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยได้ร่วมกับผู้นำชุมชน, อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ ในห้วงวันที่ 1 – 5 กันยายน 2564 รายละเอียดดังนี้
1. มอบให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวแม่หล่ะ อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก จำนวน 100 ต้น
2. มอบให้หมู่บ้าน/ชุมชนตัวอย่างปลอดภัยจากการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (Bubble and Seal) บ้านพะละ ตำบลขะเนจื้อ อำเภอแม่ละมาด จังหวัดตาก จำนวน 50 ต้น
3. มอบให้หมู่บ้าน/ชุมชนตัวอย่างปลอดภัยจากการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (Bubble and Seal) บ้านบอลูโค๊ะ ตำบลท่าสองยาง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก จำนวน 50 ต้น


สำหรับ “ฟ้าทะลายโจร” เป็นพืชล้มลุก สูงประมาณ 30 – 70 เซนติเมตร มีรสขมทุกส่วน ออกดอกเป็นช่อ กลีบดอกสีขาว มีผลเป็นฝักสีน้ำตาล มีเมล็ดอยู่ด้านใน เป็นสมุนไพรที่มีผลการวิจัยรองรับและเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติสมุนไพร โดยมีข้อบ่งชี้สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีความรุนแรงน้อย เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคที่รุนแรงต่อไป โดยมีสาระสำคัญ “Andrographolide” ในการยับยั้งการเข้าสู่เซลล์และยับยั้งการจำลองแบบของสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัส โดยรับประทานยาเม็ดฟ้าทะลายโจรที่มีปริมาณของสารแอนโดรกราโฟไลด์ 180 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแบ่งรับประทานวันละ 3 ครั้ง ต่อเนื่อง 5 วัน
การดำเนินกรรมวิธีปลูกฟ้าทลายโจร ของโครงการทหารพันธุ์ดี กองทัพภาคที่ 3 มีรายละเอียดดังนี้
1. การขยายพันธุ์พืชสมุนไพรฟ้าทะลายโจร มี 2 วิธี ได้แก่
1.1 ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ใช้เมล็ดจากฝักแก่จัดที่มีสีน้ำตาลแดง ลักษณะสมบูรณ์ ปราศจากโรคและแมลง ก่อนปลูกนำเมล็ดแช่น้ำที่อุณหภูมิห้อง 6-12 ชั่วโมง จากนั้นนำมาหว่าน (นำเมล็ดมาผสมทรายหยาบ อัตรา 1 : 1-2) หรือนำมาโรยเมล็ด (โรยเป็นแถวขุดร่องตื้นๆ เป็นแถวยาว โดยมีระยะห่างระหว่างแถว ประมาณ 40 เซนติเมตร โรยเมล็ดกลบดินบางๆ)
1.2 การเพาะกล้า ขุดหลุมกว้างประมาณ 15 เซนติเมตร ลึกประมาณ 8-12 เซนติเมตร เป็นแถว ระยะห่างระหว่างต้น 20-30 เซนติเมตร และระหว่างแถว 40 เซนติเมตร
2. การเก็บเกี่ยว : เก็บเกี่ยวระยะเริ่มออกดอก ถึงระยะดอกบาน 50% หรืออายุต้นหลังปลูก ประมาณ 90 วัน เพื่อให้มีสารสำคัญในการออกฤทธิ์สูง และควรเก็บเกี่ยวผลผลิตช่วงเช้า
3. วิธีเก็บเกี่ยว : ตัดทั้งต้นเหนือดินประมาณ 5-10 เซนติเมตร
4. สายพันธุ์ที่เพาะปลูก : ดำเนินการตามคำแนะนำของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการปลูก 2 สายพันธุ์ ที่มีสารแอนโดรกราโฟไลด์สูง ได้แก่
4.1 สายพันธุ์พิจิตร 4-4 มีปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์ มากถึง 12.20 กรัมต่อน้ำหนักแห้ง 100 กรัม
4.2 สายพันธุ์พิษณุโลก 5-4 มีปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์ มากถึง 8.89 กรัมต่อน้ำหนักแห้ง 100 กรัม

กองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ 3 มีความพร้อมที่จะสนับสนุนกำลังพลและยุทโธปกรณ์ทางทหาร รวมทั้งบูรณาการศักยภาพทางการทหารในทุกๆ ด้านของกองทัพบก เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้พ้นจากวิกฤตทุกโอกาส

 

ปรีชา นุตจรัส รายงานข่าวพิษณุโลก