ทีมงานบริษัทอีสเทิร์นเฮิร์บ ร่วม ทีมดาราพาสุข นำผลิตภัณฑ์สมุนไพรเคอร่า มอบผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี
เพื่อนำไปรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รพ.สนาม ศูนย์พักคอย จ.นนทบุรี
วันพฤหัสที่ 26 สิงหาคม เวลา 10.30 น. ที่ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี ทีมงานบริษัทอีสเทิร์นเฮิร์บ จำกัด ร่วมกับ ทีมดาราพาสุข มอบเครื่องมือทางการแพทย์ และยาสมุนไพร Kerra จำนวน 100กระปุก ให้กับนาย สุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการรักษา และดูแลผู้ป่วย ที่รักษาอยู่ที่ รพ.สนาม และศูนย์พักคอย ในพื้นที่ จังหวัดนนทบุรี
สำหรับยาสมุนไพรเคอร่า ที่นำมาร่วมมอบในวันนี้ เป็นยาที่ถูกพูดถึงและเป็นแสอย่างมากในโลกโซเชียล เนื่องจากมีผู้ป่วยจำนวนมากที่ใช้ยาเคอร่าแล้วได้ผลดี แต่มิวายกลับถูกโจมตีอย่างหนักทาง social จากกลุ่มเภสัชกรแผนปัจจุบัน นักวิชาการรวมทั้งอาจารย์บางท่าน ที่ยังไม่ทันฟังข้อมูล พอเห็นว่าเป็นยาสมุนไพร ยาแผนโบราณที่ทำมาง่าย ๆ ตามคัมภีร์แพทย์แผนไทย ก็เข้ามาโจมตีว่าไม่มีงานวิจัยบ้าง ไม่มีความปลอดภัยบ้าง อาจเป็นพิษต่อตับไตบ้าง รวมทั้งคนไข้ที่พกยาเคอร่าเข้าโรงพยาบาล ก็จะถูกหมอห้ามกิน หมอบางท่านห้ามเด็ดขาดกระทั่งว่า “ให้เลือกเอานะ ถ้าจะรักษากับหมอก็ห้ามกินสมุนไพร”
ทีมข่าวเลยอยากอธิบายให้ชัดเจนอีกครั้งว่า ยาสมุนไพรเคอร่า เป็นยาตำรับสมุนไพร ที่ใช้สมุนไพรที่เป็นส่วนผสมหลักเก้าชนิด ซึ่งเป็นสูตรยาตั้งแต่ดั้งเดิมเป็นคัมภีร์ตักศิลา อยู่ในคัมภีร์แพทย์ศาสตร์ฉบับหลวง พิมพ์ตั้งแต่ปี 2440 ในสมัยรัชกาลที่5 โดยได้นำตำรับยา ในแพทย์ศาสตร์ฉบับหลวง ก็คือเดิม ชื่อยาครอบไข้ตักศิลาในคัมภีร์ตักศิลา ทางเวชกรโอสถได้นำมาพัฒนา ปรับเปลี่ยนตัวยาให้เหมาะสมกับการจัดหาตัวยาในปัจจุบัน รวมทั้งพัฒนากรรมวิธีการผลิต โดยใช้ความร้อนและความเย็นในการสกัดและเพิ่มประสิทธิภาพของตัวยาให้สูงขึ้น จนมีผลในการยับยั้งไวรัสได้สำเร็จ
จากผลการวิจัยในห้องทดลองของห้องปฏิบัติการชีวเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ยืนยันถึงผลการวิจัยทดลองชัดเจนว่า ยาสมุนไพรเคอร่า มีประสิทธิภาพในการยับยั้งเอนไซม์กลไกหลักในการขยายตัวของไวรัส ที่ชื่อ main protease(เมนโปรติเอส) ที่ไวรัสโควิด-19 ใช้ในการขยายตัวเพิ่มจํานวนในร่างกาย ซึ่งมากกว่าหรือสูงกว่าฟ้าทะลายโจร 2,200 เท่า ซึ่งมีประสิทธิภาพการยับยั้งเอนไซม์ main protease ที่สูงกว่าฟ้าทะลายโจร และสูงกว่ายาแผนปัจจุบันหลายชนิด ที่เป็นยาต้านไวรัส ยาเคอร่า จึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษาผู้ป่วย และป้องการการสียชีวิตที่เกิดขึ้น และสามารถกินยาต่อเนื่อง โดยที่ไม่ส่งผลข้างเคียงด้วย โดยเฉพาะโรคไต