ผกก.สภ.เมืองหนุนส่งผู้ป่วยโควิด-19 กลับบ้านขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงถึง 5,664 รายแล้ว
เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ เปิดเผยว่า จากการที่ขณะนี้ จ.ศรีสะเกษ ได้มีการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส โควิด-19 กระจายไปทุกอำเภอของ จ.ศรีสะเกษ โดยยอดของผู้ติดเชื้อพุ่งสูงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประชาชนที่ติดเชื้อโควิด-19 ได้มีการเข้าไปพักรักษาตัวที่ รพ.สนามและศูนย์พักคอยตามสถานที่ต่าง ๆ ที่ทางราชการได้จัดไว้ให้ เพื่อให้การดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่เป็นประชาชนชาวศรีสะเกษอย่างเต็มที่ โดยคณะแพทย์พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนได้ทำงานกันอย่างหนัก เพื่อรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19
พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ เปิดเผยต่อไปว่า เพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ตนพร้อมด้วย พ.ต.ท.พิเนตร ดาวเรือง รอง ผกก.ป.สภ.เมืองศรีสะเกษ พ.ต.ต.ทนงศักดิ์ ยะสูงเนิน สวป.สภ.เมืองศรีสะเกษ ร.ต.อ.ไพบูลย์ คุณสาร รอง สวป.สภ.เมืองศรีสะเกษ ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวรป้องกันปราบปราม จึงได้มอบหมายให้ ด.ต.เด่นดวง วงค์สุข และ ส.ต.ท.ไชยนันท์ ปริโยทัย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ ตร.ชุดจิตอาสาช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด ได้ให้การสนับสนุนนำผู้ป่วยติดเชื้อโควิด จากศูนย์พักคอย มจร.ส่งกลับไปยังภูมิลำเนาที่ เขต อ.อุทุมพรพิสัย และ อ.ห้วยทับทัน จนภารกิจเสร็จสิ้นไปด้วยความเรียบร้อย จึงได้เดินทางกลับและได้ทำการพ่นยาฆ่าเชื้อโรคในยานพาหนะและตามเสื้อผ้าของเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติด้วยแอลกอฮอล์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้ิอจากจุดเฝ้าระวัง อ.อุทุมพรพิสัย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จ.ศรีสะเกษ ได้เปิดเผยข้อมูลผู้ป่วยโควิด-19 จ.ศรีสะเกษ ระลอกเมษายน 2564 ประจำวันที่ 6 ส.ค. 2564 โดยข้อมูลระบุว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มวันนี้ จำนวน 201 ราย โดย อ.กันทรลักษ์ มีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มมากที่สุด จำนวน 596 ราย มียอดผู้ติดเชื้อสูงที่สุดของ จ.ศรีสะเกษ รองลงมาคือ อ.ศรีรัตนะ มีผู้ติดเชื้อจำนวน 588 ราย และ อ.กันทรารมย์ มีผู้ติดเชื้อ จำนวน 334 ราย โดยทั้ง จ.ศรีสะเกษมียอดผู้ติดเชื้อสะสม จำนวนทั้งสิ้น 5,664 ราย เสียชีวิตสะสม 21 ราย ขณะที่รักษาหายเพิ่มวันนี้ จำนวน 335 ราย รักษาหายสะสม จำนวน 3,701 ราย รักษาอยู่จำนวน 1,942 ราย
บุญทัน ธุศรีวรรณ รายงาน
