กองทัพเรือ เร่งแก้ไขปัญหาการให้บริการไฟฟ้าในพื้นที่อำเภอสัตหีบ แจงการดำเนินการของกิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ เป็นส่วนหนึ่งของความมั่นคงทางทหาร เช่นเดียวกับความมั่นคงด้านพลังงานเชื้อเพลิงปิโตรเลียม ที่ถือเป็นยุทธปัจจัย

กองทัพเรือ เร่งแก้ไขปัญหาการให้บริการไฟฟ้าในพื้นที่อำเภอสัตหีบ แจงการดำเนินการของกิจการไฟฟ้า

สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ เป็นส่วนหนึ่งของความมั่นคงทางทหาร เช่นเดียวกับความมั่นคงด้านพลังงานเชื้อเพลิงปิโตรเลียม ที่ถือเป็นยุทธปัจจัย

 

วันนี้ (14 กรกฎาคม 2564) พลเรือเอก เชษฐา โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงกรณีที่ ผู้ใช้บริการไฟฟ้าในพื้นที่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ร้องเรียนถึงกรณีการเกิดปัญหา ไฟตกและไฟดับบ่อยครั้ง ซึ่งกระทบต่อคุณภาพชีวิตและความปลอดภัย ของประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ มีการปรับปรุงแก้ไข โดยเรียกร้อง ให้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เข้ามา ดำเนินกิจการแทน ผู้ให้บริการรายเดิม นั้น โฆษกกองทัพเรือ ได้ชี้แจงว่า  ปัจจุบัน หน่วยงานที่ให้บริการไฟฟ้าในพื้นที่อำเภอสัตหีบจังหวัดชลบุรี คือ กิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ ซึ่งก่อตั้งด้วยเหตุผลความจำเป็นทางยุทธปัจจัยด้านปิโตรเลียม พลังงานไฟฟ้า พร้อมทั้งสาธารณูปโภคอื่นๆ ที่ทุกฐานทัพ หรือเขตปลอดภัยทางทหารของเกือบทุกชาติในโลก ต่างต้องดำรงความพร้อมให้แก่กำลังทหารและยุทโธปกรณ์ โดยก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2483 เริ่มต้นได้สร้างเป็นโรงกำเนิดไฟฟ้า ประกอบด้วยเครื่องกำเนิดไฟฟ้า จำนวน 3 เครื่องๆ ละ 275 กิโลวัตต์ เดินเครื่องจำหน่ายไฟฟ้าให้กับหน่วยราชการทหาร ฐานทัพเรือ ตลอดจนหน่วยราชการฝ่ายพลเรือน และตลาดสัตหีบ ซึ่งในขณะนั้น บ้านเรือนราษฎรยังเบาบาง มีเฉพาะหน่วยงานทางทหารเป็นส่วนใหญ่ และในพื้นที่ดังกล่าวยังไม่มีไฟฟ้าใช้ อยู่ในสภาวะกันดารด้วยเหตุที่การไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง

ต่อมาในปี พ.ศ.2509 Officer Incharge Construction Center (O.I.C.C.) ของ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เข้ามาช่วยเหลือด้านกิจการทหารของประเทศไทย โดยได้เพิ่มขีดความสามารถในการจำหน่ายกระแสไฟฟ้า ทำให้ฐานทัพเรือสัตหีบ กองทัพเรือ บริการกระแสไฟฟ้าให้แก่ประชาชนในตำบลสัตหีบได้เพิ่มมากขึ้น จนกระทั่งในปี พ.ศ.2510 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้ขยายเขตจำหน่ายไฟฟ้ามาถึงอำเภอสัตหีบ โดยได้ตั้งสถานีไฟฟ้าย่อยที่ 1 ขึ้นที่ตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี กองทัพเรือ จึงได้ยกเลิก การเดินเครื่องกำเนิดไฟฟ้า และได้ซื้อกระแสไฟฟ้าจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มาใช้ในหน่วยราชการทหาร และจำหน่ายให้แก่ประชาชนบริเวณใกล้เคียงที่มาร้องขอใช้บริการ

ทั้งนี้ กองทัพเรือ ได้รับสัมปทานให้ประกอบกิจการไฟฟ้าในการดำเนินการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากกระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2514 เป็นต้นมา มีการต่ออายุสัมปทานมาแล้วจำนวน 4 ครั้งๆ ละ 10 ปี โดยมีข้อกำหนดและเงื่อนไขตามสัมปทานประกอบกิจการไฟฟ้าซึ่ง กองทัพเรือ ได้รับจากกระทรวงกระทรวงมหาดไทยให้สัมปทานประกอบกิจการไฟฟ้า จำนวน 4 ครั้ง ในปี พ.ศ.2513, 2524, 2533 และ2541 และกระทรวงพลังงานให้สัมปทานประกอบกิจการไฟฟ้า จำนวน 1 ครั้ง ในปี พ.ศ.2550 มีวัตถุประสงค์เพื่อจำหน่ายกระแสไฟฟ้าแทน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในเขตปลอดภัยในราชการทหารของฐานทัพเรือสัตหีบ กองทัพเรือ และประชาชน ในเขตที่ได้รับสัมปทาน โดยมีอาณาเขต ดังนี้ ทิศเหนือจรดเขตบ้านอำเภอ ทิศใต้จรดกรมปืนต่อสู้อากาศยาน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ทิศตะวันออกจรดเขตคลองบางไผ่ ทิศตะวันตกจรดเขตฝั่งตะวันออกทั้งหมด

การดำเนินการของกิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ มีวัตถุประสงค์เป็นตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ประชาชน ได้มีกระแสไฟฟ้าใช้อย่างทั่วถึง และถูกต้องตามประกาศคณะกรรมการกํากับกิจการพลังงาน (กกพ.) เรื่อง มาตรฐานของสัญญาให้บริการไฟฟ้า พ.ศ.2558 และเรื่อง มาตรฐานของสัญญาให้บริการผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ พ.ศ.2561 ซึ่งในประกาศดังกล่าวได้ให้นิยาม ผู้ให้บริการไฟฟ้าว่า หมายถึง การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ (กิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัตหีบ) ผู้รับใบอนุญาตจำหน่ายไฟฟ้าเอกชนหรือผู้รับใบอนุญาตอื่นที่ กกพ. กำหนด

โฆษกกองทัพเรือกล่าวต่อไปว่า สำหรับ กิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ ได้รับใบอนุญาตจำหน่ายไฟฟ้าและใบอนุญาตระบบจำหน่ายไฟฟ้าจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน โดยกองทัพเรือยังคงมีความจำเป็นในการดำเนินการคือการไฟฟ้าเพื่อความมั่นคงและปลอดภัยในราชการทหาร เช่นเดียวกับความมั่นคงด้านพลังงานเชื้อเพลิง หรือการปิโตรเลียมและสาธารณูปโภคที่สำคัญอื่นๆอีกโดยเฉพาะในเขต ฐานทัพ ท่าเรือ และเนื่องจากเขตอำเภอสัตหีบเป็นเขตปลอดภัยในราชการทหาร ตาม พระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณเขตปลอดภัยในราชการทหารแห่งกองทัพเรือ ในท้องที่อำเภอบ้านค่าย อำเภอบ้านฉาง อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง และ อำเภอบางละมุง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พ.ศ.2536 โดย กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ มีฐานทัพเรือสัตหีบ เป็นหน่วยดูแลรับผิดชอบ

นอกจากที่กล่าวแล้วปัจจุบันยังมีภารกิจที่กองทัพเรือได้รับมอบหมายจากรัฐบาลสำหรับการเตรียมการรองรับโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ที่ต้องดูแลสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาซึ่งเป็นทั้งสนามบินเชิงพาณิชย์และสนามบินทางทหารในพื้นที่เดียวกัน และท่าเรือจุกเสม็ดที่เป็นทั้งท่าเรือพาณิชย์และท่าเรือทางทหารที่สำคัญอีกด้วยซึ่งจะทำให้ยิ่งต้องเพิ่มมาตรการต่าง ๆ ในเขตปลอดภัยทางทหาร ที่กองทัพเรือดูแลและถือเป็นพื้นที่ทางความมั่นคงทางทหารที่สำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจาก เป็นที่ตั้งของหลายๆหน่วยขนาดใหญ่ ทั้งหน่วยกำลังรบและหน่วยสนับสนุนต่างๆอันได้แก่ กองเรือยุทธการ ฐานทัพเรือสัตหีบ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กรมสรรพาวุธทหารเรือ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กรมอู่ทหารเรือ อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช และโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ซึ่งรับผิดชอบทั้งกำลังทางบก กำลังทางเรือ อากาศยาน ตลอดจนยุทโธปกรณ์พาหนะ และเครื่องมืออุปกรณ์รวมถึงการส่งกำลังบำรุงต่าง ๆ และเขตเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ ไม่ใช่เพียงการมีขีดความสามารถทางความมั่นคงด้านไฟฟ้านี้ไว้สำหรับหน่วยขนาดเล็กๆ โดยการไฟฟ้า นับได้ว่าเป็นอีกยุทธปัจจัยหนึ่งที่กองทัพเรือต้องควบคุมให้ดำรงไว้ให้มีใช้ได้อย่างต่อเนื่องในพื้นที่สำคัญด้านความมั่นคง พื้นที่ปลอดภัยทางทหารของกองทัพ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเขตที่เป็นฐานทัพ และทั้งนี้ กองทัพเรือโดยกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือได้มีการปรับปรุงและพัฒนาระบบจำหน่าย การบริหารจัดการและการให้บริการผู้ใช้ไฟฟ้ามาอย่างต่อเนื่องตามมาตรฐานที่ผู้ให้บริการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายกำหนด

จากปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นที่ทำให้ผู้รับบริการไฟฟ้าในพื้นที่ ได้รับความเดือดร้อนนั้น โฆษกกองทัพเรือกล่าวว่า กองทัพเรือไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้สั่งการให้กิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือเร่งแก้ไขและ ดำเนินการพัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งได้มีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ อยู่เป็นประจำ เพื่อปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ที่มีความชำรุด รวมถึงได้ทำการวิเคราะห์ หาสาเหตุของไฟฟ้าขัดข้องจากอุปกรณ์ตรวจจับที่มีความทันสมัย

สำหรับเหตุการณ์ไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้างติดต่อกันเมื่อช่วงวันที่ 8 – 11 กรกฎาคม 2564 บริเวณซอยจามจุรี ถึงกิโลเมตรที่ 6 ในพื้นที่อำเภอสัตหีบนั้น มีสาเหตุมาจากเหตุฝนฟ้าคะนอง ทำให้อุปกรณ์ชำรุด อีกทั้งระบบจำหน่ายบริเวณดังกล่าว เป็นพื้นที่ต้นไม้ชุกทำให้กระทบกับอุปกรณ์แรงสูงและช่วงเวลาฝนตกทำให้มีความเสี่ยงในการดำเนินการ และระบบตรวจจับไม่สามารถ แจ้งพิกัดได้ เนื่องจากสายไฟฟ้าไม่ได้ขาดออกจากกัน ซึ่งจะสามารถตรวจสอบได้ง่ายกว่า ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงต้องทำการวิเคราะห์ และกำหนดตำแหน่งเข้าตรวจสอบ จึงไม่สามารถดำเนินการตรวจสอบสาเหตุไฟฟ้าดับบริเวณดังกล่าวได้ และเมื่อวันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม 2564 กิจการไฟฟ้าฯ ได้ดำเนินการ ตรวจสอบสายส่งไฟฟ้าบริเวณดังกล่าว พบว่าบริเวณดังกล่าวต้นไม้ชุกและส่งผลกับอุปกรณ์แรงสูง อีกทั้งในพื้นที่ใกล้เคียงมีอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูงชำรุดจึงได้เร่งดำเนินการแก้ไข และมีความจำเป็นต้องดับไฟในบางส่วนเป็นการชั่วคราว ทั้งนี้จะดำเนินการดับไฟอีกครั้งในวันพุธที่ 14 กรกฎาคม 2564 ระหว่างเวลา 12.00 – 13.00 น. เพื่อซ่อมทำอุปกรณ์แรงสูงที่ชำรุดบริเวณสถานีไฟฟ้าแรงสูง พร้อมทั้งได้มีการแจ้งกับผู้ใช้บริการในพื้นที่แล้ว ในการนี้กิจการไฟฟ้าฯ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ และขอยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการและพัฒนาศักยภาพของกิจการไฟฟ้าฯ ในทุกรูปแบบเพื่อสร้างความพึงพอใจในการให้บริการแก่พี่น้องประชาชน โดยคำนึงถึง ความพึงพอใจของผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ โดยกองทัพเรือได้ดำเนินการพัฒนาโครงข่ายระบบไฟฟ้าในพื้นที่สัตหีบให้มีเสถียรภาพมาอย่างต่อเนื่องด้วยการสร้างสถานีไฟฟ้าแรงสูง 3 พร้อมทั้งปรับปรุงสถานีที่1และ2ในปี 2561 – 2563 และจะดำเนินการก่อสร้างสถานีไฟฟ้าแรงสูง4 เชื่อมกันทุกสถานีให้แล้วเสร็จในปี 2566

ภาพ/ข่าว สำนักงานโฆษกกองทัพเรือ
นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี

You May Have Missed!

0 Minutes
ข่าวประชาสัมพันธ์
วว. คว้ารางวัลการวิจัยแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2568 ประเภทวิทยานิพนธ์ สาขาวิทยาศาสตร์เคมีและเภสัช  / วิศวกรรมศาสตร์และอุตสาหกรรมวิจัย 
1 Minute
ข่าวประชาสัมพันธ์
มาร์ส ส่งท้ายโครงการ SWAP ปีที่ 4 อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการเปิดตัวสวนสุนัขแห่งใหม่ในจังหวัดเชียงใหม่
1 Minute
ข่าวประชาสัมพันธ์
สาขาแรกในไทย กับ ร้านข้าวหน้าเทมปุระระดับพรีเมียม “KANEKO HANNOSUKE”  เปิดประสบการณ์ใหม่ของข้าวหน้าเทมปุระแบบต้นตำรับจากโตเกียวที่อยากให้ลิ้มลอง ณ โครงการใหม่ใจกลางเมือง One Bangkok
0 Minutes
ข่าวประชาสัมพันธ์
วว. ร่วมประกาศจัดงาน “One Stop Open House 2024” กระทรวง อว. พร้อมสานต่อความสำเร็จ “อว.แฟร์” เปิดโลกการศึกษา…สู่อนาคตที่เยาวชนไทยออกแบบเองได้