นักธุรกิจ แอมเวย์ หนีโควิด-19 ระบาดหันมาปลูกอินทผลัมออร์แกนิค ขายสร้างรายได้งาม

นักธุรกิจ แอมเวย์ หนีโควิด-19 ระบาด จากกรุงเทพฯ กลับบ้านเกิดที่จังหวัดชัยภูมิ ลงทุนปรับสวนมะขามหันมาปลูกอินผลัม 150 ต้น บนเนื้อที่ 4 ไร่ สร้างรายได้คราวละกว่า 1 ล้านบาท เผยปลูกครั้งเดียวให้ผลผลิตถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน

ต้นอินทผลัม 150 ต้น บนเนื้อที่ 4 ไร่ ที่กำลังออกผลผลิตของ นายอดุล อร่ามชัย อายุ 57 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 3 ตำบลส้มป่อย อำเภอจัตุรัส จ.ชัยภูมิ ที่เคยทำธุรกิจแอมเวย์ ในกรุงเทพและบริษัท ส่งไปดูงานที่ต่างประเทศหลายครั้งจึงนำประสบการณ์ที่มี หนี หนีโรคโควิด-19 ระบาดจากกรุงเทพ กลับมาบ้านเกิด ได้สั่งนำเข้าต้นอินทผลัมจากต่างประเทศมาเพาะปลูกในพื้นที่สร้างรายได้ ถึงคราวละหลักแสน-หลักล้านบาท หันมาทำการเกษตรอย่างเต็มตัว โดยอาศัยประสบการณ์ที่ได้จากการไปศึกษาดูงานยังต่างประเทศมาปรับใช้ในสวนของตัวเองจนได้ผลดีดี ทำให้อินทผาลัมของตนที่ปลูก นับลูกได้ 25ลูกต่อ1กิโลกรัม ขายในราคากก.ล่ะ 5000 บาทเลยทีเดียว

นายอดุล อร่ามชัย เล่าว่า อดีตเคยทำธุรกิจขายแอมเวย์ ทำยอดดีตลอดมาจนทางบริษัทได้ส่งให้ไปดูงานที่ต่างประเทศหลายครั้ง ตนจึงเก็บเกี่ยวประสบการณ์และนำเงินจากการทำงานมาปรับพื้นที่จากเคยปลูกมะขามไว้ขาย เมื่อเจอโควิด -19 ระบาด ในช่วงแรกๆ จึงเปลี่ยนแนวคิดทำสวนอินทผลัม ออร์แกนิค เพื่อให้คนกินได้กินผลไม้ ที่ดีต่อสุขภาพ จึงได้สั่งนำเข้าต้นอินทผลัมจากต่างประเทศ มาปลูก เพราะตนไปเห็นที่ต่างประเทศว่า การดูแลเอาใจใส่ที่ดี ผลผลิตเขาจึงดี ลูกโต บวกกับมีความชอบส่วนตัว เป็นพืชที่มีต้นสวย ให้ผลผลิตและมีอายุยืนนาน ปลูกครั้งเดียว สามารถอยู่ถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน จึงทำการสั่งซื้อต้นอินทผลัม สายพันธุ์ มาจากต่างประเทศมาปลูกในสวนของตนเอง โดยมีสายพันธุ์ ที่ปลูกอยู่ณ.ตอนนี้ทั้งหมดกว่า 7 ชนิด คือ บาฮี สีเหลือง สายพันธุ์ อังกฤษ และ อีหล่าน บาฮีน้ำผึ้ง (เหลือง) บิ๊กเกรฟ ( สีเหลือง) โคไนซี่ (สีแดง) บาท ไฮบานี่ แรดฮอก (แดง) และสุดท้ายนางเอกของสวน คือ ดรีมมี่วัน มาปลูกตั้งแต่เจอโควิด-19 ระบาดรอบแรก จึงตัดสินใจกลับบ้าน มาทำการเกษตร โดยเฉพาะต้นอินทผลัม ที่ปลูกเตรียมไว้ก่อนหน้านี้ในการปลูกจะมีระยะห่างของต้น 7 คูณ 7 เมตร โดยช่วงแรกทำการบำรุงรักษาต้น ด้วยการให้น้ำ ใส่ปุ๋ยบำรุงต้น ในช่วง 1-2 ปี แรกอย่างสม่ำเสมอ และระวังแมลงด้วงกับเชื้อรา ที่คอยทำลายต้น จากนั้น ในช่วงปีที่ 3- 4 ต้นอินทผลัม จะให้ผลผลิตเอง ต้นละ 20-30 ช่อ ช่อล่ะ 20-30 กก. แล้วแต่อายุและขนาดของต้นนั้นๆ ซึ่งหลังจากติดผล ทางสวนจะทำการห่อด้วยถุง เพื่อป้องกันแมลงศัตรู ที่มาทำลายผล จะเก็บจำหน่ายได้ ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม

สำหรับเรื่องของราคาขายลูกอินทผลัมพันธุ์บาฮี สีเหลือง สายพันธุ์ อังกฤษ และ อีหล่าน ขายในราคา กก.ล่ะ 400 บาท บาฮีน้ำผึ้ง (เหลือง) ราคา กก.ล่ะ 400 บาท บิ๊กเกรฟ ( สีเหลือง) ราคา กก.ล่ะ 550 บาท โคไนซี่ (สีแดง) ราคา กก.ล่ะ 650 บาท ไฮบานี่ (แดง) ราคา กก.ล่ะ 850 บาท แรดฮอก (แดง) ราคา กก.ล่ะ 2,000 บาท และสุดท้ายนางเอกของสวน คือ ดรีมมี่วัน (แดง) ราคา กก.ล่ะ 5,000 บาท ซึ่งจะมีผู้ที่สนใจ มาดูและเดินทางมาซื้อถึงหน้าสวน รวมถึงผู้ที่สนใจสั่งซื้อได้ ทางเพจและทางโทรศัพท์ ซึ่งปีที่ผ่านมา อินทผลัม สามารถจำหน่ายสร้างรายได้ให้ครอบได้ถึง 7 หลักเลยทีเดียว หักค่าใช้จ่ายแล้วสามารถสร้างรายได้ให้ครอบครัวได้ดีพอสมควร
นายอดุล อร่ามชัย บอกอีกว่า อาชีพเดิมที่ตนเคยทำ เป็นงานที่มีอัตราการเสี่ยง สำหรับโควิด-19 แตกต่างกับอาชีพเกษตรกร ที่มีความปลอดภัยมากกว่า หากเกษตรกร ที่สนใจการปลูกพืช ควรศึกษาพืชที่เหมาะกับการทำการเกษตร ที่ไม่ต้องใช้แรงมาก หากสนใจอินทผลัมหรือต้องการปลูกอินทผลัม สามารถติดต่อสอบถามได้ ที่เบอร์โทรศัพท์ 091-8799645,087-9146495 หรือที่เพจเฟซบุ๊ก อินทผลัมชัยภูมิ ไร่เดือนอร่าม ไอดีไลน์ 091-8799645 087-9146495 เพื่อนำไปรับประทานหรือเพื่อเป็นแนวทางสำหรับการเปลี่ยนแปลงอาชีพได้

คำหอม ชุมชน  ผู้สื่อข่าว จ.ชัยภูมิ///รายงาน