เกษตรฯ วางมาตรการเข้มหลังพบบุคลากรติดโควิค-19 อีก 2 รายวันนี้ สั่งกักตัวตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด
วันที่ 11 มิถุนายน 2564 นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้มีการตรวจพบบุคลากรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ติดโควิค-19 จำนวน 2 ราย โดยเป็นบุคลากรที่ปฎิบัติหน้าที่สังกัดกองกลาง สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งในเบื้องต้น บุคลากรทั้ง 2 คน ได้ถูกส่งตัวเพื่อรักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วนแล้ว
ทั้งนี้หลังจากที่พบว่าบุคลากรของกระทรวงเกษตรฯ ติดโควิด-19 ได้สั่งการให้ปิดที่ทำงานกองกลางทันที และให้ผู้ใกล้ชิดบุคลากรทั้งสอง ตรวจเชื้อพร้อมกับกักตัว 14 วัน ตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ ยังประสานไปยังกรมปศุสัตว์เพื่อทำการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อภายในอาคารทั้งหมดเป็นการเร่งด่วน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดต่อไป
อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังคงเน้นย้ำให้หน่วยงานในสังกัดปฏิบัติงานตามแนวทางที่กำหนดอย่างเข้มงวด เพื่อให้การป้องกันและควบคุมจำกัดการแพร่ระบาดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีแนวทาง ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติราชการที่บ้าน (Work form Home) การจัดประชุมกำหนดให้ดำเนินการในรูปแบบการประชุมออนไลน์ โดยที่ห้องประชุมให้มีเพียงประธานการประชุม ฝ่ายเลขานุการฯ และเจ้าหน้าที่ควบคุมการสื่อสาร รวมจำนวนไม่เกิน 10 คน และให้มีการเว้นระยะห่างทางสังคม การเข้าร่วมประชุมกับหน่วยงานอื่น ๆ ขอให้ประชุมผ่านระบบออนไลน์เท่านั้น เพิ่มความเข้มงวดในการเข้า-ออก บริเวณพื้นที่ของหน่วยงาน เน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติตามหลัก DMHTT (D : Social Distancing เว้นระยะห่าง M : Mask สวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน หรืออยู่ในพื้นที่สาธารณ H : Hand ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ T : Testing การตรวจเร็ว รักษาเร็ว ควบคุมโรคได้เร็ว และ T : Thai cha na ใช้แอพไทยชนะ) อย่างเคร่งครัด
นอกจากนั้นจังกำชับเจ้าหน้าที่หลีกเลี่ยงการเดินทางไปต่างจังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดหรือพื้นที่เสี่ยงตามข้อกำหนดซึ่งออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 รวมทั้งหลีกเลี่ยงการเดินทางข้ามจังหวัดในช่วงเวลาที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินกรณีที่มีการระบาดของโรคติดต่อร้ายแรง ยกเว้นเหตุราชการ ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของจังหวัดนั้น โดยเฉพาะการกักกันในสถานที่ตามระนะเวลาซึ่งเจ้าพนักงานฏรคติดต่อหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสาธารณสุขกำหนด