จนท.ทหาร ฉก.ร.5 ตชด.437 ขึ้นบินลาดตระเวนแนวชายแดนไทยมาเลเซียจ.สงขลา รับมือมาเลเซียล๊อคดาวน์เต็มรูปแบบทั้งประเทศ
ป้องกันแรงงานต่างด้าวและแรงงานไทยหลบหนีเข้ามา อุดช่องโหว่ช่องทางตามธรรมชาติทุกช่องทางตลอดความยาว 85 กิโลเมตร
ด้านแม่ทัพภาค4 ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนสะเดาและส่งกองกำลังเทพสตรีอีก1 ชุดมาควบคุมพื้นที่ชายแดนไทยมาเลเซีย
สถานาการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทยมาเลเซีย ซึ่งในวันนี้ทางการมาเลเซียเริ่มมาตรการล๊อคดาวเต็มรูปแบบทั่วประเทศเป็นวันแรกไปจนถึงวันที่14มิถุนายน เป็นเวลา14วัน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด19ที่ยังคงรุนแรง ในส่วนของพื้นที่ชายแดนไทยมาเลเซียของจ.สงขลา เมื่อช่วงเช้าของวันนี้กำลังทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่5และตชด.437 ซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่ชายแดนไทยมาเลเซียของจ.สงขลา
ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทยมาเลเซียใน3อำเภอตั้งแต่อ.สะเดา นาทวี และอ.สะบ้าย้อย เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยบริเวณแนวชายแดน และตรวตสอบช่องทางธรรมชาติที่อาจเป็นช่องโหว่ให้มีการลักลอบข้ามแดนเข้ามาได้ จากผลพวงที่มาเลเซียล๊อคดาวน์ประเทศ
นอกจากนี้ได้มีการปิดช่องทางธรรมชาติตลอดแนวชายแดนของจ.สงขลา ระยะทาง 85 กิโลเมตรที่เคยถูกใช้เป็นเส้นทางลักลอบเข้ามาของทั้งแรงงานต่างด้าวและแรงงานไทยทุกช่องทางพร้อมจัดกำลังเฝ้าและลาดตระเวนตลอด24ชั่วโมง
ด้านพล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ ก็ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และบรรยากาศชายแดนไทยมาเลเซียที่หลักเขตแดน 23/41 อ.สะเดา จ.สงขลา และตรวจเยี่ยมชุดปฏิบัติการจรยุทธของกองกำลังเทพสตรีซึ่งถูกส่งเข้ามาเสริมดูแลพื้นที่ตามแนวชายแดนไทยมาเลเซียอีก1ชุด เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่มากยิ่งขึ้น และสั่งการให้กำลังทหาร ตชด.ฝ่ายปกครอง และผู้นำท้องถิ่นร่วมมือกันเฝ้าระวังชายแดนป้องกันไม่ให้มีการลักลอบเข้ามาซึ่งอาจเป็นสาเหตุในการแพร่เชื้อโควิด19 โดยเฉพาะสายพันธุ์อินเดีย และแอปริกาใต้ที่ระบาดในประเทศมาเลเซีย สำหรับภาพรวมของสถานการณ์โควิด19ของจ.สงขลา ยังพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกวันยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่1,649 คน และเสียชีวิต8 คน ในจำนวนนี้รักษาหายกลับบ้านแล้ว 1,026 คน รักษาตัวในโรงพยาบาล 615 คน
ภาพ/ข่าว มณีรัตน์ แก้ววิเชียร ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสงขลา