แม่ทัพภาคที่4 ยกพลช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนบ้านด่านนอก เมืองหน้าด่านชายแดนไทยมาเลเซียที่เดือดร้อนในช่วงโควิด พร้อมสั่งคุมเข้มชายแดนไทยมาเลเซีย ตั้งแต่จ.สตูล จนถึง จ.นราธิวาส ป้องกันการลักลอบเข้าเมืองนำเชื้อโควิดเข้ามาแพร่

แม่ทัพภาคที่4 ยกพลช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนบ้านด่านนอก เมืองหน้าด่านชายแดนไทยมาเลเซียที่เดือดร้อนในช่วงโควิด

พร้อมสั่งคุมเข้มชายแดนไทยมาเลเซีย ตั้งแต่จ.สตูล จนถึง จ.นราธิวาส ป้องกันการลักลอบเข้าเมืองนำเชื้อโควิดเข้ามาแพร่

 

สถานการณ์โควิด19ที่จ.สงขลานอกเหนือจากการเร่งป้องกันและควบคุมการระบาดซึ่งยังพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกวันแล้วยังมีการช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนควบคู่กันไปด้วย  โดยในวันนี้พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ยกกำลังพลลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ชุมชนบ้านด่านนอก ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านติดชายแดนไทยมาเลเซีย ที่เดือดร้อนอย่างหนักจากผลพวงของโควิดการค้าการท่องเที่ยวหยุดชะงักเพราะทั้งไทยและมาเลเซียยังคงปิดประเทศและยังต้องเสี่ยงกับโควิดสายพันธุ์อินเดียที่ระบาดอยู่ในประเทศมาเลเซีย

โดยกองทัพบกได้ยกโรงครัวสนามเคลื่อนที่พระราชทานของกองพลพัฒนาที่4 มาปรุงอาหารให้ชาวบ้านได้กินกันรวมทั้งแจกจ่ายพืชผลทางการเกษตรและปลานิลกว่า 2,000 ตัวเพื่อให้ชาวบ้านนำไปกินกันในครัวเรือนช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย รวมทั้งนำรถมือปราบฉีดพ่นฆ่าเชื้อโควิดมาบริการประชาชนอีกด้วย

แม่ทัพภาคที่4 เปิดเผยว่าจะยกครัวสนามลงทุกพื้นที่ในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่4 เพื่อนช่วยเหลือประชาชนให้ได้มากที่สุดทั้งมอบอาหารสดอาหารแห้งมาแจกจ่าย รวมทั้งรับซื้อผลผลิตของเกษตรกรนำมาแจกจ่ายให้กับประชาชนช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนทุกสาขาอาชีพ ส่วนในพื้นที่ชายแดนไทยมาเลเซียตั้งแต่จ.สตูลจนถึงอ.ตากใบ จ.นราธิวา ก็ยังคงสั่งการให้มีการจัดกำลังดูแลเพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองอย่างต่อเนื่องทั้งคนไทยและแรงงานต่างด้าวป้องกันนำเชื้อโควิดเข้ามาแพร่ระบาด

ภาพ/ข่าว มณีรัตน์ แก้ววิเชียร ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสงขลา