แม่ทัพภาค4ลงพื้นที่ติดตามแนวชายแดนไทยมาเลเซียอ.สะเดา จ.สงขลา
สั่งคุมเข้มพื้นที่ป้องกันการลักลอบเข้ามาของแรงงานต่างด้าวและแรงงานไทยตลอดแนวชายแดนไทยมาเลเซีย
ตั้งแต่ จ.สตูล จนถึง อ.ตากใบจ.นราธิวาส เพื่อป้องกันนำเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่เข้ามา เผยที่ผ่านมาจับกุมผู้นำพาที่อ .ตากใบ ได้2กลุ่มและที่สะเดา 4 คน ทั้งคนไทยและมาเลเซีย
สถานการณ์ในพื้นที่แนวชายแดนไทยมาเลเซียอ.สะเดา จ.สงขลาหลังจากที่มีการจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาและผู้นำมารวม17คนที่ลักลอบเข้ามาตามช่องทางรั้วชายแดนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นของวันนี้(13พ.ค.64)พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ลงพื้นที่ติดตามการทำงานของกองกำลังป้องกันแนวชายแดนไทยมาเลเซียด้าน อ.สะเดา จ.สงขลา
ทั้งที่ด่านพรมแดนสะเดา ซึ่งมีการเดินทางเข้ามาของกลุ่มคนไทยอย่างถูกกฏหมายสัปดาห์ละ3วันคือวันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์รวมทั้งลงพื้นที่ตรวจแนวรั้วชายแดนไทยมาเลเซียหลักกิโลเมตรที่ 21 ต.สำนักขาม ตรงข้ามกับรัฐเคดาห์ประเทศมาเลเซีย และกำชับให้กองกำลังรักษาชายแดนไทยมาเลเซียคุมเข้มพื้นที่สูงสุด
แม่ทัพภาคที่4เผยว่าได้สั่งการให้มีการคุมเข้มพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทยมาเลเซียตั้งแต่ จ.สตูลจนถึง อ.ตากใบจ.นราธิวาส ที่ผ่านมาสามารถพื้นที่ อ.ตากใบจับคนนำพาได้2กลุ่ม ส่วนที่ อ .สะเดา จ.สงขลา ก็จับผู้นำพาได้ 4ราย เป็นชาวเมียนมา2รายและคนไทยอีก2 ราย และถูกดำเนินคดีทั้งลักลอบนำพา และ พรบ.ควบคุมโรค ซึ่งสามารถตัดตอนการลักลอบข้ามแดนเข้ามาได้ แต่ด้วยพื้นที่ซึ่งยาวมากก็อาจจะมีช่องโหว่ให้แรงงานต่างด้าวและคนไทยหลุดรอดเข้ามาได้ตามที่จับกุมได้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งต้องเฝ้าระวังมากขึ้นทั้งใช้กำลังพลและเครื่องมือเข้ามาช่วย รวมทั้งเครือข่ายภาคประชาชนที่ต้องเข้ามาเสริมในกรณีที่อาจหลุดรอดจากชายแดนชั้นแรกเข้ามาพื้นที่ชั้นใน
ทั้งนี้ทางรัฐบาลเป็นห่วงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยมาเลเซียมากเนื่องจากในมาเลเซียมีการระบาดของโควิด19 สายพันธุ์อินเดียและ แอฟริการใต้ ที่อาจจะแพร่เข้ามาในไทยจากการลักลอบเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าวและคนไทยในประเทศมาเลเซีย ส่วนภาพรวมสถานการณ์โควิด19ที่ จ.สงขลา ตัวเลขผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 901 คน เสียชีวิต3 คน และเจ้าหน้าที่ยังคงตรวจเชิงรุกเพื่อหาคลุ่มเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง
ภาพ/ข่าว มณีรัตน์ แก้ววิเชียร ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสงขลา