เจอเพิ่มแรงงานพม่าติดเชื้อโควิดในโรงงานสับปะรดกระป๋องหัวหิน 115 คน สั่งกักตัว 402 คนงานเสี่ยงสูง 14 วัน
วันที่ 8 พฤษภาคม นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า กรณีการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในโรงงานสับปะรดกระป๋องบริษัท ควอลิตี้ ไพน์แอปเปิ้ล โปรดักส์ ริมถนนบายพาสชะอำ-ปราณบุรี หมู่ที่ 3 บ้านหนองนกน้อย ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน ตรวจพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนเป็นคลัสเตอร์ใหม่ พบผู้ติดเชื้อโควิด 19 จำนวนมากในกลุ่มลูกจ้างชาวพม่า ล่าสุดได้รับรายงานว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อโควิดในโรงงานฯจำนวน 115 คน ขณะนี้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลหัวหิน ยืนยันว่าไม่มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามภายในโรงงานสับปะรด แต่มีการจัดสถานที่สำหรับการกักตัวในโรงงาน
“พนักงานในโรงงาน 593 คน มีพนักงานรายเดือนคนไทย 53 คน พนักงานรายวัน 540 คน แต่เป็นชาวพม่า 523 คน หลังการคัดกรองพบว่าเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ต้องกักตัวในโรงงานทั้งหมด 402 คน แบ่งเป็นผู้ที่อยู่ในบ้านพักของโรงงานแล้ว 202 คน และ ต้องเรียกคนงานจากหลายพื้นที่เข้ามากักตัวเพิ่มอีก 200 คน โดยห้ามบุคคลใดที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าออกภายในสถานที่กักตัวผู้มีความเสี่ยงสูงอย่างเด็ดขาด ยกเว้นหากผู้กักตัวมีอาการเจ็บป่วยต้องนำส่งโรงพยาบาลหรือยกเว้นเฉพาะเจ้าหน้ารับส่งอาหารเท่านั้น ซึ่งอยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับการกักตัวกำหนดถึงวันที่ 20 พฤษภาคมนี้”นายกิตติพงศ์ กล่าว
นายปัญญา กอนใย ผู้ใหญ่บ้านห บ้านนองนกน้อย หมู่ 3 ต.หินเหล็กไฟ กล่าวว่า การระบาดของโควิดในแรงงานพม่ามากว่า 100 คนอาจจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มต่อเนื่อง ซึ่งหวั่นวิตกจะเข้ามาแพร่เชื้อในชุมชนหมู่บ้านทั้งที่ใกล้โรงงานและหมู่บ้านในตำบลหินเหล็กไฟ เนื่องจากแรงงานมีการเคลื่อนย้ายเดินทางไปมาและมีการติดเชื้อโควิด-19 ผ่านมาหลายวัน โดยโรงงานฯแห่งนี้มีพนักงานทั้งพม่าและคนไทย ขณะนี้ ได้ติดตามข้อมูลจากหน่วยงานราชการ เพื่อแจ้งเตือนประชาชน สร้างความเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงงานสับปะรด เพื่อให้ชาวบ้านมีความเข้าใจ ช่วยกันป้องกันตนเอง พร้อมเน้นย้ำให้ทุกครัวเรือนอยู่บ้านเท่านั้น
พ.ต.อ.ฉัตรไชย เรียนเมฆ อดีตรองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ประจวบคีรีขันธ์ อดีตผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า หลังจากโควิด 19 ระบาดอย่างหนักในพื้นที่ อ.หัวหินจากสถานบริการหลายแห่ง ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2564 สร้างความเสียหายอย่างหนักทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวและประชาชนผลกระทบ ขอทราบจากผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ กรณีการดำเนินการกับเจ้าของสถานบริการที่เป็นต้นเหตุของการแพร่ระบาดครั้งนี้ ซึ่งเนื่องมาจากการฝ่าฝืนคำสั่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดในการป้องกันการติดต่อของโควิด เพราะถึงเวลานี้ ยังไม่มีความคืบหน้าในการจัดการกับต้นเหตุการระบาด มีแต่การนำเสนอความเดือดร้อนของประชาชนผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ เนื่องมาจากการเห็นแก่ได้ของเจ้าของสถานบริการ 2-3 แห่ง
พิสิษฐ์ รื่นเกษม ข่าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์