ศรชล.ประสานช่วยเหลือเรือประมงถูกพายุซัดจม 2 ลำ เสียชีวิต 1 คน
วันนี้ 6 พ.ค.64 เวลา 08.30 น. ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จังหวัดชุมพร (ศรชล.จังหวัดชุมพร) โดย น.อ.กิตติพงษ์ พุ่มสร้าง รอง ผอ.ศรชล.จังหวัดชุมพร ในนามของ ผอ.ศรชล.จังหวัดชุมพร และศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือ จังหวัดชุมพร (ศคท.จังหวัดชุมพร) ได้รับแจ้งจาก นายวัชรินทร์ สุวพิศ ปลัด อบต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ว่า เกิดเหตุเรือประมงพื้นบ้าน เป็นเรือไฟเบอร์ติดเครื่องยนต์แบบหางยาว จำนวน 2 ลำ ถูกพายุฝนซัดและจมลงบริเวณหน้าแหลมคอกวาง ต.นาทุ่ง อ.เมือง จ.ชุมพร
เบื้องต้นทราบว่ามีผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย เรือจมหายไป และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เป็นชาย 1 ราย ได้รับการช่วยเหลือกลับเข้าฝั่งพร้อมร่างผู้เสียชีวิต โดย พ.ต.ท.วินัย นิ่มฟัก สว.ส.รน.1 กก.6 บก.รน. สั่งการให้ ร.ต.อ.วสุ บัวจีน รอง สว.(ทนท.ทางน้ำ) ส.รน.1 กก.6 บก.รน. พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจชุดปฏิบัติการ รวม 4 นาย นำเรือตรวจการณ์ 532 ออกทำการค้นหาเรือประมงที่สูญหายและกู้เรือประมงที่จม บริเวณหน้าแหลมคอกวาง โดยเจ้าของเรือที่รอดชีวิตพร้อมทีมงานได้ร่วมเดินทางไปด้วย
นาย นรินทร์ เต็งประยูร อยู่บ้านเลขที่ 74 ม.9 ต.นาชะอัง อ.เมือง จ. ชุมพร เจ้าของเรือที่รอดชีวิต ที่เดินทางไปพร้อมกับเรือตรวจการณ์ 532 เพื่อไปร่วมกู้เรือของตนเองที่จม และร่วมค้นหาเรือประมงที่สูญหายเป็นเรือไฟเบอร์ ยาว 10 เมตร กว้าง 1.6 เมตร ลึก 60 เซนติเมตร เป็นเรือหางยาว เอกสารได้จมพร้อมกับเรือ ส่วนเรืออีกลำที่สูญหายเป็นเรือลักษณะเดียวกัน โดยได้ร่วมกับเรือประมงพื้นบ้านกู้เรือของ นายนรินทร์ฯ นำกลับเข้าฝั่ง ส่วนเรืออีก 1 ลำ ที่สูญหายยังอยู่ระหว่างการค้นหา
จากการสอบถาม นายอุดม ธนบัตร อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ที่ 9 ตำบลบ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร ที่รอดชีวิตอีกลำหนึ่งทราบว่า ได้นำเรือออกไปตกหมึกและตกปลากับ นางสาวจุรีรัตน์ อ่ำศรี อายุ 38 ปี ภรรยา ห่างจากฝั่งประมาณ 130 เมตร ได้เกิดฝนตกหนักลมพายุพัดกระหน่ำอย่างรุนแรง จนเรือจมลงตนได้ลอยพยุงตัวอยู่ในน้ำอีกมือหนึ่งจับเสื้อภรรยาที่ไปด้วยกันเอาไว้ พยุงตัวจนสามารถนำภรรยาเข้าถึงฝั่งได้ แต่ภรรยาเกิดอาการสะอึกและอาเจียนออกมาเป็นเลือดนอนแน่นิ่ง เป็นเหตุให้เสียชีวิต ดังกล่าว
ภาพ/ข่าว ศรชล.ภาค 1
นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน