“บิ๊กอู๊ด” ผบช.สตม. สั่งรถสายตรวจ ตม. ทั่วประเทศออกประกาศสองภาษา ไทย-อังกฤษ เข้มมาตรการโควิดเน้นจังหวัดท่องเที่ยว

พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.เปิดเผยว่า ไดสั่งการให้ตำรวจ ตม. ทั่วประเทศนำรถยนต์ไฟฟ้าตรวจการณ์อัจฉริยะ (SMART PATROL CAR:SPC) ออกประชาสัมพันธ์สองภาษาทั้งไทย และภาษาอังกฤษ รณรงค์ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่นอกเคหะสถาน และโทษในทางกฎหมายหากมีการฝ่าฝืน โดยให้เว้นระยะทางทางสังคม ขอความร่วมมือไม่รวมตัวกันเป็นกลุ่มจำนวนมาก และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในการป้องกันการติดเชื้อโรคไวรัสโคโรน่า 2019 ทั้งนี้เน้นให้เร่งประชาสัมพันธ์ในจังหวัดแหล่งท่องเที่ยวเป็นหลักด้วย

โดยที่บริเวณท่าเรือซีทรานเฟอร์รี่ ม.3 ต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ ตม.จ.สุราษฎร์ธานี ได้มีการประชาสัมพันธ์ ประกาศเป็นภาษาท้องถิ่น รวมถึงภาษาต่างประทศเพื่อให้ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ได้รับรู้ และเข้าใจถึงจุดประสงค์ของข่าวสารที่ได้รับในการประชาสัมพันธ์ และให้ความร่วมมือกับมาตรการในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เช่นเดียวกับที่ จ.ภูเก็ต ตามชายหาดและในเขตเมืองเจ้าหน้าที่ ตม.จ.ภูเก็ต ก็ได้นำรถออกประชาสัมพันธ์ ตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ในจังหวัดอื่นๆในภาคกลางก็ดำเนินการอย่างต่อเนื่องด้วย

พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ได้นำรถยนต์ตรวจการณ์อัจฉริยะ ออกช่วยเหลือภารกิจของผู้ว่าราชการจังหวัด และตำรวจในพื้นที่ โดยประกาศประชาสัมพันธ์ และรณรงค์ให้ประชาชนให้สวมหน้ากากอนามัยและล้างมือบ่อยๆ โดยขอความร่วมมือถ้าไม่มีเหตุจำเป็นไม่ต้องออกนอกบ้าน และขอให้ชาวต่างชาติงดร่วมกิจกรรมรวมตัวกันจัดปาร์ตี้เพราะอาจจะเป็นแหล่งแพร่เชื้อได้ รวมถึงปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 และให้ถือปฏิบัติตามมาตรการและแนวทางการป้องกันแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด และเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยมีความพร้อม ตั้งใจมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายด้วยความเสียสละอดทนในการดูแลประชาชนอย่างเข้มแข็ง โดยให้คำนึงถึงความปลอดภัยของตนเองด้วย

ด้าน พ.ต.อ.ธเนศ สุขชัย ผกก.ตม.จ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จ.ภูเก็ต นำรถยนต์ตรวจการณ์อัจฉริยะ ออกประชาสัมพันธ์ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อรณรงค์ในการสวมหนากากอนามัยเมื่อออกจากบ้านทุกครั้ง และโทษในทางกฎหมายหากมีการฝ่าฝืน เนื่องจากพื้นที่ของจังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยว ซึ่งจะมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยประชาสัมพันธ์นั้น สื่อสารเป็นทั้งภาษาไทย ภาษาท้องถิ่นรวมถึงภาษาต่างประเทศ เพื่อให้ชาวต่างชาติได้รับรู้ และเข้าใจถึงจุดประสงค์ของข่าวสารที่ได้รับในการประชาสัมพันธ์ และให้ความร่วมมือกับมาตรการในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และให้งดจัดกิจกรรมการรวมตัวกันแม้ว่าจะจัดในที่พักส่วนตัวก็ตาม เพราะก่อนหน้านี้มีการแอบจัดกิจกรรมรื่นเริงกันในหมู่ชาวต่างชาติด้วย

สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน