เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว คุมตัวผู้ต้องหาอดีตนักโทษชาย จี้สาวเข้าโรงแรมหวังข่มขืน
ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนนำตัวฝากขังต่อศาลจังหวัดสระแก้วในวันพรุ่งนี้
พ.ต.ท.พูลศักดิ์ นานันท์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว พร้อมด้วย ร.ต.อ.ประพันธ์ พุฒมี รองสว.(สอบสวน) สภ.วังน้ำเย็น และตำรวจชุดสืบสวน สภ.วังน้ำเย็น ได้รวบรวมพยานหลักฐานโดยนำตัวผู้ก่อเหตุคือนายอลงกรณ์ รักษา หรือ ไผ่ อายุ 29 ปี ซึ่งเคยถูกจับกุมในคดีชิงทรัพย์ และยาเสพติดตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย. 2556 และเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีได้เพียง 3 วัน ก่อนที่จะมาก่อเหตุซ้ำอีก ไปทำแผนจุดที่บริเวณหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาวังน้ำเย็น ที่คนร้ายบังคับผู้เสียหายขึ้นรถเก๋งขับไปเรื่อยๆ จนสาวขับไปชนรถขยะ จุดที่สองบริเวณขับรถชนรถเก็บขยะห่างจากจุดเดิมประมาณ 400 เมตร โดยมีบรรดาชาวบ้านมามุงดูการทำแผนจำนวนมาก และจุดที่สามที่คนร้ายลงจากรถวิ่งหลบหนีเข้าป่าด้านหลังตลาด และจุดท้ายที่ไปทิ้งมีดจากนั้นก็ได้วิ่งหลบหนีหายไป
พ.ต.ท.พูลศักดิ์ นานันท์ รอง ผกก.(สอบสวนน) สภ.วังน้ำเย็น เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสระบุรี และสืบสวน สภ.วังน้ำเย็น ได้ลงพื้นที่ค้นหาพบว่ามีกล้องวงจรปิดจับภาพผู้ต้องหากำลังเดินทางด้วยเท้า บริเวณถนนบายพาส เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการแกะรอยตามภาพวงจรปิดพร้อมตรวจสอบถึงรถมอเตอร์ไซค์ จนทราบแน่ชัด จนออกหมายจับ และไปจับกุมตัวได้ ที่สระบุรี โดยนายไผ่ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนเองเพิ่งออกจากคุกมาได้ 2-3 วันในข้อหามีครอบครองยาบ้าที่ จ.จันทบุรี และค้าของหนีภาษี โดยติดคุกมาร่วม 4 ปี จากนั้นเมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้ออกจากคุก ตนได้ขับรถจักรยายนต์ไปพบผู้เสียหาย กำลังยืนอยู่หน้าตู้ ATM จึงได้ใช้อาวุธมีดเข้าไปเพื่อจะชิงทรัพย์ ขณะนั้นไม่สามารถกดเงินออกมาได้ จึงทำการใช้อาวุธมีดจี้บังคับผู้เสียหายให้ขับรถยนต์เก๋งไปข้างนอก โดยที่ตนเองนั่งหลัง แล้วใช้อาวุธมีดอยู่บังคับอยู่ในรถ เพื่อบังคับขู่ให้ไปโรงแรม และจะให้นั่งตักไปในรถ แต่ไม่ได้จะข่มขืน จนมาถึงที่เกิดเหตุนางสาวศุภวรรณเห็นรถขยะ แล้วเข้าพุ่งชน จากนั้นตนเองก็ได้หลบหนีการจับกุม โดยมาที่จังหวัดสระบุรี มาหาลุงโดยที่ลุงก็ไม่รู้ โดยนายอลงกรณ์ รักษา หรือ ไผ่ อายุ 29 ปี รับสารภาพทุกข้อกล่าวหาจึงได้พาไปทำแผนประกอบคำเป็นหลักฐานสำนวนคดีและตั้งข้อกล่าวว่าในความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
รายงานข่าวจาก.ไตรรัตน์ มีวงษ์ จ.สระแก้ว