“เข้มแข็ง”สั่งเกษตรจังหวัดเร่งสำรวจความเสียหาย พร้อมประสานความช่วยเหลือให้เกษตรกรสวนผลไม้จันทบุรีหลังพายุฤดูร้อนถล่ม
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า จากที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนภัย ช่วงวันที่ 10 – 12 เมษายน 2564 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุม ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฝนฟ้าคะนอง และมีลมกระโชกแรง
อย่างไรก็ตามในช่วงนี้เป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตทุเรียนของพื้นที่ภาคตะวันออก ลมพายุดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบต่อต้นไม้ผล และผลผลิตของเกษตรกรได้ กรมส่งเสริมการเกษตรจึงได้สั่งการให้เกษตรจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกเร่งประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรรีบดำเนินการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร และภายหลังจากเกิดเหตุภัยพิบัติแล้วขอให้เร่งสำรวจพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย พร้อมกับประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัด เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรเบื้องเป็นการด่วน
ทั้งนี้ล่าสุด วันนี้12 เมษายน 2564 นางปัทมา นามวงษ์ เกษตรจังหวัดจันทบุรี และคณะได้ ลงพื้นที่อำเภอท่าใหม่ร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และสมาชิกสภาเทศบาลตำบลเขาบายศรี อำเภอท่าใหม่ เพื่อสำรวจสถานการณ์ความเสียหายของพื้นที่ปลูกไม้ผลและเยี่ยมให้กำลังใจเกษตรกรผู้ประสบวาตภัย พบว่า มีพื้นที่ประสบภัย 8 อำเภอ 25 ตำบล 100 หมู่บ้าน เกษตรกรได้รับผลกระทบ 442 ราย พืชที่ได้รับความเสียหายได้แก่ ทุเรียน ลำไย กล้วยไข่ รวมพื้นที่ 260 ไร่ รวมทั้งมีทุเรียนผลร่วงอีก 1,454 ตัน ซึ่งสำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรีกำลังเร่งดำเนินการสำรวจและรวบรวมข้อมูลความเสียหายเสนอให้จังหวัดพิจารณาประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พร้อมประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว
สำหรับหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ปี 2562 เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือ เกษตรกรที่จะได้รับความช่วยเหลือต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรก่อนเกิดภัยพิบัติ จึงจะได้รับการช่วยเหลือตามพื้นที่เสียหายจริง ไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ กำหนดอัตราการช่วยเหลือดังนี้ ข้าว 1,113 บาทต่อไร่ พืชไร่ 1,148 บาทต่อไร่ พืชสวนและอื่นๆ 1,690 บาทต่อไร่ ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรได้กำชับให้เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรจังหวัดทุกจังหวัดที่มีพื้นที่ประสบภัยจากพายุฤดูร้อน เร่งลงไปพบปะเยี่ยมเยียนให้กำลังใจเกษตรกร และสำรวจความเสียหายรายงานให้กรมส่งเสริมการเกษตรทราบเป็นรายวันแล้ว