ตร. มุกดาหาร สกัดจับขบวนการขนยาบ้าได้ 4 แสนเม็ดพร้อมผุ้ต้องหา 2 คน
เมื่อวันที่ 8 เม.ย.64 ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.สรรธาน อินทรจักร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ บำรุงสวัสดิ์ ผกก.นิคมคำสร้อย พ.ต.ท.อุทัย เพ็งธรรม รอง ผกก.ป. สภ.นิคมคำสร้อย พ.ต.ท.ชำนาญ คนไว รอง ผกก.สส.สภ นิคมคำสร้อย พร้อมด้วยชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองนิคมคำสร้อย สนธิกำลังปฎิบัติการตั้งจุดตรวจป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ที่จุดตรวจตำบลโชคชัย อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร
ได้ทำการจับกุมขบวนการลักลอบขนยาบ้าจำนวน 400,000 เม็ด พร้อมผู้ต้องหา 2 คน ทราบชื่อ นายณัฐวุฒิ หมีคำ อายุ 62 ปี ที่อยู่ 220 หมู่ที่ 11 ตำบลยางโยภาพ อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี และนายสมหวัง คิดชอบ อายุ 48 ปี ที่อยู่ 31 หมู่ 12 ตำบลตรวจ อำเภอศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ พร้อมของกลาง รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า สีแดง หมยเลขทะเบียน กค – 4574 หนองคาย รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ สีบรอนทอง หมายเลขทะเบียน บจ – 2874 อำนาจเจริญ รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน กธ – 2504 ศรีสะเกษ อาวุธปืน 9 มม. จำนวน 1กระบอก กระสุนปืน 9 มม. จำนวน 50 นัด
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.นิคมคำสร้อย ได้ตั้งจุดตรวจที่บริเวณตำบลโชคชัย จากการสอบถามณัฐวุฒิ หมีคำ ให้การว่า เป็นคนขับรถนำดูทางให้รถเก๋งที่บรรทุกยาบ้ามาจาก อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม เพื่อไปส่งที่อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ ได้ค่าจ้าง 5,000 บาท และสอบถามนายสมหวัง ฯ ให้การว่า นายบัติ ไม่ทราบชื่อสกุลจริง ราษฎรชาว สปป.ลาว จ้างให้มารับยาบ้าที่อำเภอนาแก ได้ค่าจ้าง 25,000 บาท โดยมีชายไทย ไม่ทราบชื่อนามสกุล ขี่รถเก๋งคันดังกล่าว ไปรับที่จังหวัดศรีสะเกษ
จากนั้นได้เดินทางร่วมกันไปเอากระสอบยาบ้าดังกล่าวที่ป่าบริเวณข้างทางของอำเภอนาแก จังหวัดนครพนม โดยชายไทยที่วิ่งหลบหนีเป็นคนประสานกับนายณัฐวุฒิ ฯ รถนำข้างต้น จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางทั้งหมด และได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นำพาอาวุธปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนส่งพนักงานสอบสวน สภ.นิคมคำสร้อย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ไกรสมุทร นามโพธิ์ไทร/รายงานจากมุกดาหาร