มูลนิธิหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา  สืบสานพระพุทธศาสนาบูชามหาปูชนียาจารย์ บวงสรวงและถวายจีวรหลวงปู่สรวงละสังขารครบรอบ 21 ปี

มูลนิธิหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนา  สืบสานพระพุทธศาสนาบูชามหาปูชนียาจารย์ บวงสรวงและถวายจีวรหลวงปู่สรวงละสังขารครบรอบ 21 ปี

 

เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2564 ที่วัดไพรพัฒนา ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ พระครูโกศลสิกขกิจ เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ) ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวงวัดไพรพัฒนาและพระครูวัชรชยาภินันท์ เจ้าอาวาสวัดป่าพลาญเพชร (ธ) อำเภอภูสิงห์ ได้เป็นประธานสืบสานพระพุทธศาสนาบูชามหาปูชนียาจารย์ ในพิธีบวงสรวงและถวายจีวรหลวงปู่สรวงละสังขารครบรอบ 21 ปี โดยมีพระอาจารย์ทินวัฒน์ จันทปัญโญ วัดจำปา เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร และคหบดีจากกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย คุณณัฐนันท์ ตั้งธนาเกียรติ คุณชัยรัตน์ กิตติหิรัญวัฒน์ พลเรือโทกมล – คุณอังคณา อุณหกะ คุณสิทธิศักดิ์ – คุณนันท์ยภรณ์ เสริมวิลาสกุ คุณสง่า – คุณอรรพรรณ อโนสัก คุณภากร แสงบรรจง คุณจิรพัฒน์ ยลพานิช คุณประสาน ภิญโญ นำพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมในพิธีบวงสรวงและถวายจีวรหลวงปู่สรวงละสังขารครบรอบ 21 ปี ด้วยมาตรการที่เข้มข้น ให้ขึ้นกราบไหว้สรีระร่างหลวงปู่สรวง ครั้งละไม่เกิน 20 คน สวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกลอฮอล์ ผ่านจุดคัดกรองป้องกันโรคติดต่อไวรัสโควิด 19 เพื่อให้ผู้ร่วมงานได้มีความปลอดภัยจากโรคติดต่อไวรัสโควิด 19

พระครูโกศลสิกขกิจ เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ) กล่าวว่า หลวงปู่สรวง ชาวบ้านรู้จักกันว่าเป็นพระชาวกัมพูชา ที่อาศัยอยู่แถบชายแดนตามเชิงเขาพนมดงรัก เป็นผู้ทรงศีลปฎิบัติธรรม พักอาศัยอยู่ตามกระท่อมในไร่นาของชาวบ้าน และย้ายไปในที่ต่างๆ ตามแถบเทือกเขา ซึ่งชาวบ้านทั่วไปจะเข้าใจท่านในฐานะผู้ทรงศีลที่มีคุณวิเศษ มีความเมตตาช่วยเหลือชาวบ้าน และเรียกขานว่า “ลูกเอาวเบ๊าะ” หรือ “ลูกตาเบ๊าะ” เป็นภาษาเขมร หมายถึงพระดาบส เป็นพระมักน้อย สันโดษ สมถะ มีอุเบกขาสูง เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวกัมพูชา รวมถึงชาวจังหวัดศรีสะเกษ และใกล้เคียง หลวงปู่สรวง ละสังขาร เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2543 แต่สังขารยังคงสภาพเดิม ศิษยานุศิษย์จึงได้นำสรีละสังขารหลวงปู่สรวงบรรจุในโลงแก้ว พร้อมสร้างมณฑปปราสาทให้เพื่อถวายเป็นกุศล เป็นศูนย์รวมจิตใจและเพื่อให้พุทธศาสนิกชนกราบไหว้บูชาต่อไป


ข่าว/ภาพ…… บุญทัน ธุศรีวรรณ ศรีสะเกษ