“วัชระ” นำพ่อค้า-แม่ค้าตลาดบางแคภิรมย์ร้องนายกฯช่วย หลังถูกกทม.เรียกเก็บเงินเพิ่มโหดไม่เป็นธรรมเย้ยกระแสโควิด-19

“วัชระ” นำพ่อค้า-แม่ค้าตลาดบางแคภิรมย์ร้องนายกฯช่วย หลังถูกกทม.เรียกเก็บเงินเพิ่มโหดไม่เป็นธรรมเย้ยกระแสโควิด-19

 

เมื่อวันที่ 5 เม.ย.64 เวลา 11.11 น.ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล : นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมผ่านนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้ช่วยเหลือบรรดาพ่อค้าแม่ค้าตลาดบางแคภิรมย์ ย่านบางแค จากการที่คณะกรรมการตลาด สำนักงานตลาดกรุงเทพมหานครได้กำหนดอัตราค่าเช่า ค่าธรรมเนียม ค่าบริการส่วนกลาง ค่าประกันสัญญา และอื่นๆ

โดยประกาศตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ค้าเห็นว่าไม่เป็นธรรม จากเดิมที่มีค่าใช้จ่ายเพียงค่าเช่าแผงจำนวน 115 บาทต่อวันเป็นเก็บเดือนละ 3,450 บาท และค่าค้ำประกันการทำการค้าจากเดิม 3,500 บาทซึ่งเก็บไปแล้ว ยังมาเก็บเพิ่มอีกแผงละ 5,000 บาท ทำให้ผู้ค้าทั้ง 617 แผงที่จากเดิมมี 544 แผงเดือดร้อนอย่างหนัก นอกจากนี้ยังมีค่าส่วนกลางที่เพิ่มขึ้นอีกแผงละ 1,000 บาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้เก็บ การประกาศดังกล่าว ผู้ค้าไม่ทราบมาก่อนการวางเงินประกันสัญญาแผงค้า ทำให้ต้นทุนสูงขึ้นถือเป็นการบีบบังคับที่ไม่เป็นธรรม ทำให้ผู้ค้าจะต้องขึ้นราคาสินค้าที่สูงขึ้นตามต้นทุน อีกทั้งประกาศดังกล่าวยังขัดแย้งกับวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างตลาดที่จะสร้างเพื่อแม่ค้าเป็นคนจนให้มีรายได้ และหากสินค้ามีราคาสูงขึ้นผู้บริโภคก็ต้องไปซื้อสินค้าที่ตลาดอื่น ผู้ค้าก็ต้องขาดทุน ทำให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมาอีกมาก

ดังนั้นผู้ค้าจึงได้ร่วมกันลงชื่อขอให้ทบทวนคำสั่งและเลื่อนการจับฉลากเลือกแผงค้า เนื่องจากเห็นว่าประกาศดังกล่าวไม่เป็นธรรมต่อผู้ค้า และกำหนดการจะจับฉลากดังกล่าว ในพื้นที่เขตบางแค ยังมีข่าวการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างรุนแรงด้วย

ทั้งนี้ ผู้ค้าได้ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯกทม.เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยมีนายพินิต อารนะศิลปะธร ผู้อำนวยการสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร เป็นตัวแทนรับเรื่องร้องทุกข์ และกล่าวว่าจำเป็นต้องเก็บเพิ่มเพราะต้องนำไปจ่ายค่าเช่าพื้นที่เดือนละ 3 แสนบาท ทั้งที่เป็นที่ดินของสำนักงานทัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ การร้องเรียนของผู้ค้าไม่เป็นผล สำนักงานตลาดฯกลับจัดให้รวมตัวกันจับฉลากแผงค้าเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2564 โดยมิได้คำนึงถึงการแพร่ระบาดโรคหรือความเดือดร้อนของผู้ค้าแต่อย่างใด

จากนั้นในวันที่ 3 เมษายน 2564 ทางสำนักงานตลาดได้จัดทำเอกสารในการขอรับรองขึ้นใหม่ โดยเพิ่มข้อความในเอกสาร มีข้อความว่า “ข้าพเจ้าไม่ขอเรียกร้องสิทธิใดๆทั้งสิ้น ทั้งทางแพ่งและอาญาจากการจับสลากในครั้งนี้” ถือเป็นการกระทำที่ทำให้ผู้ค้าไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างยิ่ง เพราะหากผู้ค้าคนใดไม่ยอมก็จะถูกตัดสิทธิ์ทำการค้า ผู้ค้าจึงต้องมาร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรีให้ช่วยเหลือต่อไป

ภายหลังจากยื่นหนังสือแล้วนายวัชระฯ ได้ประสานงานกับนายสมพาสฯ เพื่อบอกนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีที่แจ้งว่า พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องให้แก้ไขปัญหาหาบเร่แผงลอยกรุงเทพมหานครให้เรียบร้อยโดยเร็วตามที่นายธีรภัทร์ฯ แจ้งให้ทราบเมื่อ 2 ปีก่อนนั้น บัดนี้ไม่มีความคืบหน้าใดๆเลย จึงขอให้ช่วยแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบด้วย

สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน