กรมฝนหลวงเคือนภัยพายุลูกเห็บพร้อมระดม ช่วยพื้นที่การเกษตรจังหวัดเพชรบูรณ์ที่ประสบภัยแล้ง และเดินหน้าปฏิบัติการช่วยเหลือ พื้นที่เสี่ยงทั่วประเทศ
วันที่ 5 เมษายน 2564 นาสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่าได้แจ้งเตือนให้ประชาชนระมัดระวังภัยจากพายุฤดูร้อนที่อาจจะเกิดพายุลูกเห็บได้ ในช่วงระหว่างวันที่ 4 – 6 เมษายน 2564 ขณะเดียวกันหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดพิษณุโลก ยังได้ร่วมกับหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดนครราชสีมา ขึ้นบินปฏิบัติการโดยใช้เทคนิค SUPER SANDWICH เพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรบริเวณ อ.วิเชียรบุรี และ อ.บึงสามพัน จังหวัดเพชบูรณ์ วัดปริมาณน้ำฝนได้ 0.1 – 0.68 มิลลิเมตร โดยพื้นที่การเกษตรเหล่านี้อยู่นอกเขตชลประทาน ต้องอาศัยน้ำฝนธรรมชาติ บ่อน้ำบาดาล และคลองธรรมชาติ ซึ่งขณะนี้เหลือปริมาณน้อยให้ใช้ในการเพาะปลูกอ้อย มันสำปะหลัง และข้าวโพด
จากผลการปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 5 หน่วย ได้ร่วมกับกองทัพบก และกองทัพอากาศ ขึ้นบินปฏิบัตการฝนหลวงทำให้เกิดฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของบริเวณ จังหวัดอุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ นครราชสีมา ชัยภูมิ ปราจีนบุรี นครนายก และพัทลุง พื้นที่ลุ่มรับน้ำในเขื่อนวชิราลงกรณ์ เขื่อนลำปาว เขื่อนห้วยหลวง เขื่อนขุนด่านปราการชล และอ่างเก็บน้ำห้วยเล็ง
สำหรับการติดตามสภาพอากาศเพื่อวางแผนการปฏิบัติการฝนหลวงในช่วงเช้าวันนี้ พบว่า ผลการตรวจสภาพอากาศจากสถานีเรดาร์ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ สภาพอากาศยังไม่เข้าเงื่อนไขปฏิบัติการฝนหลวง และหากสภาพอากาศเข้าเงื่อนไขก็พร้อมจะช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรในพื้นที่เป้าหมาย โดยหน่วยฯ จ.เชียงใหม่ เร่งทำฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่ป่าไม้และพื้นที่ประสบปัญหาไฟป่าและหมอกควัน , หน่วยฯ จ.พิษณุโลก ดูแลพื้นที่การเกษตร จ.อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร พื้นที่เสี่ยง ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคของ จ.พิษณุโลก และแพร่ , หน่วยฯ จ.ลพบุรี ดูแลพื้นที่การเกษตร จ.นครสวรรค์ และลพบุรี พื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ , หน่วยฯ จ.อุดรธานี ดูแลช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.สกลนคร กาฬสินธุ์ นครพนม มุกดาหาร และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนน้ำอูน เขื่อนน้ำพุง และเขื่อนลำปาว , หน่วยฯ จ.บุรีรัมย์ ดูแลพื้นที่การเกษตร จ.บุรีรัมย์ มหาสารคาม สุรินทร์ ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ และพื้นที่เสียงขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค จ.อุบลราชธานี , หน่วยฯ จ.นครราชสีมา ดูแลพื้นที่การเกษตร จ.นครราชสีมา และชัยภูมิ หน่วยฯ จ.จันทบุรี พื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค จ.ฉะเชิงเทรา พื้นที่การเกษตร จ.ปราจีนบุรี , หน่วยฯ หัวหิน ดูแลพื้นที่การเกษตร จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และราชบุรี , หน่วยฯ จ.สุราฎร์ธานีดูแล พื้นที่การเกษตร จ.นครศรีธรรมราช กระบี่ พื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำอุปโภค จ.นครศรีธรรมราช และหน่วยฯ จ.สงขลา ดูแลพื้นที่การเกษตร จ.นครศรีธรรมราช พัทลุง พื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำอุปโภค จ.นครศรีธรรมราช และป่าพรุควนเคร็ง
