รวบหนุ่มเมืองโอ่งหัวใสสวมรอยเจ้าของบัญชีธนาคาร โอนเงิน 1.5 ล้าน

รวบหนุ่มเมืองโอ่งหัวใสสวมรอยเจ้าของบัญชีธนาคาร โอนเงิน 1.5 ล้าน

 

วันที่ 2 เม.ย.64 เวลา 10.30 น.ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1 อาคาร 1 สตม.(สวนพลู) แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม.,พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย และ พ.ต.อ.ชาติชาย ตันติวุฒิวร ผกก.1 บก.สส.สตม.ได้ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญโดยมีรายละเอียดดังนี้

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สอท.2 และ สภ.ทุ่งหลวง จ.ราชบุรี จับกุม นายจักรกฤษณ์ อายุ 24 ปี สัญชาติไทย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.63/2564 ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูล คอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยสามารถจับกุม ได้บริเวณหน้าห้องเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 6 ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี

โดยพฤติกรรมในคดีคือ นายจักรกฤษณ์ฯ ผู้ต้องหา ได้ใช้เฟซบุ๊ก (Facebook) ชื่อนายกัน คนเดิม เข้าไปค้นหาชื่อ นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ และหมายเลขบัญชีธนาคารของพ่อค้าแม่ค้าขายของออนไลน์ซึ่งได้โพสต์ไว้สำหรับการติดต่อซื้อขายสินค้าออนไลน์ หลังจากนั้นผู้ต้องหาได้เข้าไปในเว็บเพจหนึ่งเพื่อจ้างให้ทำสำเนาบัตรประชาชนของพ่อค้าแม่ค้าสินค้าออนไลน์ แล้วนำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นแสร้งเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารโทรศัพท์ ไปยัง Call center ของธนาคารเพื่อสอบถามยอดเงินในบัญชี โดยหากเจ้าของบัญชีเป็นหญิงผู้ต้องหาก็จะเลียนเสียงเป็นหญิงเพื่อให้เจ้าหน้าที่ Call center ของธนาคารเชื่อว่าเป็นหญิงเจ้าของบัญชี เมื่อทราบยอดเงินในบัญชีธนาคารแล้ว ผู้ต้องหาจะเลือกบัญชีที่มียอดเงินจำนวนมาก

โดยจะนำสำเนาบัตรประชาชนที่ได้ว่าจ้างให้เว็บเพจทำขึ้นมารับรองสำเนาถูกต้องในนามของเจ้าของบัตรประชาชนพร้อมเขียนข้อความกำกับไว้ว่า “ข้าพเจ้าขอมอบอำนาจ ให้นายจักรกฤษณ์ฯ ไปออกซิมการ์ดของหมายเลขโทรศัพท์นี้ เนื่องจากข้าพเจ้าไม่สะดวก ไปด้วยตนเอง” แล้วนำบัตรประชาชนของตนเอง พร้อมด้วยสำเนาบัตรประชาชนที่ทำปลอมขึ้นนั้น ไปขอซิมการ์ดใหม่ ที่ศูนย์บริการโทรศัพท์ แล้วได้นำซิมการ์ดใหม่ที่ได้ใส่ในโทรศัพท์ตนเองโทรศัพท์ไปยัง Call center ของธนาคาร เพื่อขอ Reset รหัสผ่าน หลังจากที่ธนาคารได้ส่งรหัส OTP (One Time Password) ให้แล้ว ได้เข้าไปที่แอพพลิเคชั่นออนไลน์ของธนาคารแห่งหนึ่งแล้วสวมตนเป็นเจ้าของบัญชีโอนเงินจากบัญชีผู้เสียหายเป็นจำนวนเงิน 1.5 ล้านบาท ไปยังบัญชีธนาคารของผู้ต้องหาซึ่งได้เปิดไว้ แล้วนำเงินที่ได้ไปเล่นการพนันออนไลน์ เมื่อผู้เสียหายทราบว่าเงินในบัญชีได้หายไปจึงไปแจ้งความร้องทุกข์กับ พงส.สน.ประเวศ

ต่อมาศาลอาญาพระโขนงได้ออกหมายจับ ที่ จ.63/2564 ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 ให้จับตัวนายจักรกฤษณ์ฯ ในความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน” จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทราบว่านายจักรกฤษณ์ฯ ได้หลบหนีการจับกุมไปพักอาศัยที่บริเวณห้องเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 6 ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี จึงได้ร่วมกันออกสืบสวนติดตามหาตัวนายจักรกฤษณ์ จนกระทั่งต่อมาได้พบตัวนายจักรกฤษณ์ฯ จึงได้แสดงหมายจับพร้อมจับกุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พ.ต.อ.ชาติชายฯ ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปราม
การกระทำความผิดต่างๆ รวมทั้งการดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนหรือ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเบาะแสในการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง

สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน