สายตรวจ 191 ร่วมกับ กก.สส.บก.น.8 แถลงข่าวผลการจับยาเสพติดรายใหญ่ และอาวุธปืน

วันที่ 2 เม.ย.64 เวลา 11.00 น. : พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สำราญ นวลมา รองผบช.น.,พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ.,พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี,พ.ต.อ.ศุภวัช ปานแดง รองผบก.สปพ.,พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด และค้าอาวุธปืน โดยในคดีแรก จับกุมนายธวัชชัย ใบคำ อายุ 20 ปี และนายปภังกร ทรัพยคุณา อายุ 20 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 854,000 เม็ด,ไอซ์ 386.9 กรัม,เคตามีน 890 กรัม,โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และรถจยย.ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน-ดำ ทะเบียน 7กด-5866 กรุงเทพมหานคร ในข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย” โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณภายใน ซอยเพชรเกษม 94 แยก 14 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม.

สืบเนื่องจาก บก.สปพ. ร่วมกับกก.สส.บก.น.8 ขยายผลจากการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดย่านบางแค จับกุมผู้ต้องหาทั้งคู่ขณะขี่และซ้อนท้ายรถจยย. นำยาเสพติดไปจำหน่ายให้ลูกค้า จากนั้นขยายผลตรวจค้นบ้านเลขที่ 59/185 ซอยเพชรเกษม 94 พบของกลางซุกซ่อนไว้ในบ้าน ผู้ต้องหาเช่าบ้านดังกล่าวเพื่อพักยาเสพติด จากการสอบสวนนายปภังกรฯ รับสารภาพว่า ทำมาแล้วประมาณปีเศษ และชักชวนเพื่อนคือ นายธวัชชัยฯ มาทำได้ 4 เดือน จะได้ค่าส่งยาบ้า 200 บาทต่อ 2,000 เม็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงนำตัวทั้งคู่ส่ง พนักงานสอบสวนบช.ปส.เพื่อดำเนินคดี และขยายผลต่อไป

คดีที่สอง ชุดสืบสวนงานสายตรวจ 2 บก.สปพ.จับกุมนายพีรพล  อายุ 23 ปี นายวรวัฒ ศรีสำราญ อายุ 25 ปี,น.ส.กนกวรรณ อ่อนศรี อายุ 26 ปี แฟนสาวนายวรวัฒฯ และนายนครินทร์ มั่นคง อายุ 23 ปี ในข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่ง 217 กก.,โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง,ถุงพลาสติกใส 2 ห่อ,พลาสติกกันกระแทก,กล่องพัสดุ 51 กล่อง,กระดาษกาว,รถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีเทา ทะเบียน 7 กข-3392 กรุงเทพมหานคร และรถจยย. 1 คัน

สืบเนื่องมาจากได้รับแจ้งเบาะแสจาก เบอร์โทร.191 ว่ามีผู้ลักลอบขายกัญชาส่งทางไปรษณีย์ โดยจับกุมนายพีรพลฯ ได้ในซอยอ่อนนุช 53 แขวงและเขตประเวศ กทม. พร้อมของกลาง กัญชา 6 กก. อยู่ในกล่องไปรษณีย์ขณะขี่จยย.ไปส่งพัสดุนำฝากส่งให้ลูกค้า จากนั้นขยายผลการจับกุมเพื่อนร่วมแก๊งได้ที่ย่านประเวศและพระโขนง ตรวจค้นบ้านเลขที่ 8/15 ซอยปุณณวิถี 11 ถนนสุขุมวิท 101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. ซึ่งเป็นบ้านของนายนครินทร์ฯ โดยยึดกัญชาเพิ่มเติมได้อีก 200 กว่ากก.

จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า เปิดกลุ่มไลน์ชื่อ HappyMeal ขายกัญชาใช้ชื่อไลน์ปาปิก้า ติดต่อลูกค้า รับกัญชามาจาก อ.วังน้อยจ.พระนครศรีอยุธยา จำหน่ายกก.ละ 6,000 บาท เดือนหนึ่งขายได้เฉลี่ย 100 กก. ทำมาแล้ว 1 ปีเศษ จากการตรวจสอบประวัตินายวรวัฒฯ และน.ส.กนกวรรณฟฯ มีหมายจับศาลอาญาพระโขนง ความผิดฐานสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ตามพ.ร.บ.ยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 6 จึงนำตัวนายวรวัฒฯ พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง เพื่อดำเนินคดี และที่เหลืออีก 3 คน นำส่งพนักงานสอบสวนสน.ประเวศ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

รายที่สาม ตำรวจ บก.สปพ. จับกุมนายธีรภัทร รุ่งโรจน์ประกาย อายุ 21 ปี พร้อมของกลาง ระเบิดควัน 1 ลูก,อาวุธปืน AK47 (อาก้า ) จำนวน 1 กระบอก,ปืนพกสั้น CZ compact ขนาด 9 มม.,ซองแม็กกาซีน ขนาด 7.62 มม.,กระสุน ขนาด 7.62 จำนวน 26 นัด,กระสุนปืน ขนาด .45 จำนวน 18 นัด,กระสุนปืน ขนาด 9 มม. 103 นัด,กระสุนปืนลูกซอง ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 10 นัด,กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 15 นัด,ไอซ์ 3.05 กรัม,ยาอี 2 เม็ด,กัญชาอัดแท่ง 2.4 กรัม,ใบกระท่อม 40 ใบ,ยาบ้า 25 เม็ด และ รถเก๋งโตโยต้า วีออส ทะเบียน กบ 8867 สุพรรณบุรี

สืบเนื่องมาจากชุดสืบสวนได้เบาะแสว่านายธีรภัทรฯ จำหน่ายอาวุธปืนผ่านทางโซเชียลมิเดียทางไลน์ใช้ชื่อว่า “เพชรอุมา” เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงสั่งโดยการล่อซื้ออาวุธปืนอาก้า 1 กระบอก ราคา 27,000 บาท นัดส่งที่ปั๊มน้ำมันย่านลาดพร้าว แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กทม. ตอนค่ำวันที่ 31 มี.ค.64 โดยจับกุมได้ขณะขับรถเก๋งนำปืนมาส่ง และขยายผลจากการตรวจค้นรถและบ้านเลขที่ 224/26 ซอยลาดพร้าว 93 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กทม. พบของกลางดังกล่าว

สอบสวนนายธีรภัทร์ฯ ให้การว่า ได้ซื้ออาวุธปืนและยาเสพติดจากกลุ่มไลน์ “เพชรอุมา” นำไปขายต่อเอากำไรในกลุ่มไลน์ “เศษเหล็กอันตราย” ทำมาแล้วประมาณ 2 ปี มีเงินหมุนเวียนในบัญชีเดือนละกว่าแสนบาท และมีอาชีพช่วยพ่อซ่อมรถจยย.เปิดอู่อยู่ย่านลาดพร้าว เจ้าหน้าทึ่จึงแจ้งข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าและไอซ์)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย,มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชาอัดแท่ง,ใบพืชกระท่อม)ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” จึงนำตัวส่งพนักงานสแบสวน สน.โชคชัย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน