ผบ.ร.8 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม เกณฑ์ทหาร 2564 ฤดูกาลจับใบดำ-ใบแดง เปิดกว้างให้สมัครใจเลือกหน่วย-ตำแหน่งที่ตรงกับขีดความสามารถ
ที่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พันเอก ณรงค์ วิชญาณวรวุฒิ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 8 (ผบ.ร.8) เป็นผู้แทนผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 3 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ปี 64 เพื่อให้กำลังใจคณะกรรมการตรวจเลือกฯ และชุดสังเกตการณ์ตรวจเลือกฯ เพื่อเป็นการอำนวยการ กำกับดูแล การตรวจเลือกฯ โดยเปิดกว้างให้สมัครใจเลือกหน่วย-ตำแหน่งที่ตรงกับขีดความสามารถของตนเอง ในการนี้หน่วยตรวจเลือกฯ ได้กำหนดให้มีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เเละได้จัดชุดเเพทย์เคลื่อนที่จากโรงพยาบาลค่ายศรีพัชรินทร ให้บริการเเก่ญาติทหารกองเกิน ในการวัดความดันโลหิต จ่ายยารักษาโรคทั่วไปเบื้องต้น เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายกองทัพบก และข้อห่วงใยของผู้บังคับบัญชา เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง มีความเข้าใจขั้นตอนการปฏิบัติเป็นอย่างดี ญาติทหารกองเกินมีความพึงพอใจในการเกณฑ์ทหารของปีนี้ ณ เซ็นทรัลขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น
กองทัพ กำหนดการตรวจเลือกทหารกองประจำการใหม่ หรือ เกณฑ์ทหาร 2564 ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2564 เป็นต้นไป จนกว่าการตรวจเลือกฯ จะแล้วเสร็จ แต่ไม่เกินวันที่ 20 เม.ย. 2564 เว้นวันที่ 6 เม.ย. 2564 วันจักรี และวันที่ 12-15 เม.ย. 64 วันสงกรานต์ โดยกำหนดให้ทหารกองเกินเข้ารับการตรวจเลือกฯ วันละไม่เกิน 500 คน กำหนดให้ใช้สถานที่การตรวจเลือกฯ ภายในหน่วยทหารเป็นความเร่งด่วนลำดับแรก กรณีไม่มีหน่วยทหารในพื้นที่ ให้พิจารณาใช้สถานที่ที่เหมาะสม มีลักษณะ โปร่ง โล่ง และอากาศถ่ายเทได้สะดวก ห้ามใช้สถานที่ที่เป็นห้องปรับอากาศ อีกทั้งกำหนดให้มีมาตรการควบคุม คัดกรอง และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างเคร่งครัด กระทรวงกลาโหม จะได้ประสานไปยังกระทรวงมทหาดไทย เพื่อออกประกาศแจ้งให้ทหารกองเกินแก้ไขหมายเรียกฯ (แบบ สด.35) ในกรณีที่เขตหรืออำเภอ ได้กำหนดเปลี่ยนวันหรือสถานที่ตรวจเลือกฯ และแจ้งสละสิทธิ์
ในการยกเว้นหรือผ่อนผันการตรวจเลือกฯ รวมถึง ประสานกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอรับการสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ ปฏิบัติหน้าที่ชุดคัดกรองคณะกรรมการตรวจเลือกฯ เจ้าหน้าที่ ทหารกองเกิน รวมทั้งบุคคลต่าง ๆ พร้อมกับเครื่องมือที่ใช้ในการคัดกรอง
1. ชายสัญชาติไทย เกิด พ.ศ. 2543 ซึ่งมีอายุ 21 ปีบริบูรณ์
2. คนที่เกิด พ.ศ. 2535 ถึง พ.ศ. 2542 ซึ่งมีอายุ 22 ถึง 25 ปีบริบูรณ์ ที่ยังไม่เคยเข้ารับการตรวจเลือกทหารกองเกิน เข้ารับราชการทหารกองประจําการ หรือผู้ที่ผลการตรวจเลือกฯ ยังไม่แล้วเสร็จทุกกรณี ให้ไปเข้ารับการตรวจเลือก ทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจําการ ตามวัน เวลา และสถานที่ที่กําหนดในหมายเรียกเข้ารับ ราชการทหาร (แบบ สด.35) รวมถึงบุคคลที่พํานักพักอาศัยอยู่ต่างประเทศหรือบุคคลที่มีสองสัญชาติแต่ยังคงมี สัญชาติไทยและอายุอยู่ในกําหนดที่จะต้องเข้ารับการตรวจเลือกฯ ก็จะต้องปฏิบัติตามที่กฎหมายกําหนด ทุกประการ
3. ในวันตรวจเลือกฯ ขอให้ผู้ที่จะต้องไปเข้ารับการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการ ทหารกองประจําการ นําใบสําคัญ (แบบ สด.9),บัตรประจําตัวประชาชน,หมายเรียกเข้ารับราชการทหาร (แบบ สด.35),
ใบสําคัญความเห็นแพทย์ หรือประวัติการรักษา (ถ้ามี)และประกาศนียบัตร หรือหลักฐาน การศึกษา (สําหรับผู้ที่สําเร็จการศึกษาตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่าขึ้นไป) หรือใบรับรองวิทยฐานะ ของผู้สําเร็จการฝึกวิชาทหาร ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการฝึกวิชาทหาร ตามหลักสูตรการฝึกวิชาทหาร ชั้นปีที่ 1 หรือ 2 ไปแสดงต่อคณะกรรมการตรวจเลือกด้วย ผู้ใดหลีกเลี่ยงหรือขัดขึ้นไม่ไปรับหมายเรียก เข้ารับราชการทหาร (แบบ สด.35) หรือไม่ไปเข้ารับการตรวจเลือกฯ ตามหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร (แบบ สด.35) หรือไปแต่ไม่เข้ารับการตรวจเลือกฯ หรือไม่อยู่จนการตรวจเลือกฯ จะแล้วเสร็จ ให้ถือว่ามีความผิดต้องได้รับโทษ ตามกฎหมาย
4. การส่งคนเข้ากองประจําการ คณะกรรมการตรวจเลือกจะคัดเลือกคนที่มีร่างกายสมบูรณ์ดี มีขนาดรอบตัว ตั้งแต่ 76 เซนติเมตรขึ้นไป ในเวลาหายใจออก และมีขนาดสูงตั้งแต่ 1 เมตร 46 เซนติเมตรขึ้นไป แต่จะคัดเลือกคนที่มีขนาดสูงตั้งแต่ 1 เมตร 60 เซนติเมตรขึ้นไปก่อน ถ้ามีจํานวนมากกว่าที่ทางราชการต้องการ ก็ให้ทําการจับสลากเพื่อกําหนดคนเข้ากองประจําการต่อไป
5. ในระหว่างการตรวจร่างกายหรือวัดขนาด หากผู้เข้ารับการตรวจเลือกฯ เห็นว่า การตรวจร่างกาย หรือวัดขนาดของคณะกรรมการตรวจเลือกไม่ถูกต้องตรงกับลักษณะของตนเอง หรือมีข้อสงสัยประการใด ก็ให้คัดค้านหรือสอบถามในขณะนั้นทันที เพื่อให้คณะกรรมการตรวจเลือกพิจารณา ตรวจร่างกาย หรือวัดขนาดใหม่ หากไม่มีการคัดค้านให้ถือว่ายอมรับผลการดําเนินการของคณะกรรมการ ตรวจเลือก หากผู้ที่ต้องถูกเข้ากองประจําการเห็นว่า คณะกรรมการตรวจเลือกตัดสินไม่ถูกต้องหรือไม่ยุติธรรมก็ ให้ยื่นคําร้องต่อคณะกรรมการชั้นสูงได้ ภายใน 30 เมษายน พ.ศ. 2564 เพื่อพิจารณาใหม่ที่สํานักงานสัสดี จังหวัดท้องที่ที่เข้ารับการตรวจเลือกฯ ของตน ซึ่งคําตัดสินของคณะกรรมการชั้นสูงให้เป็นที่สุด
ภาพ : ขอบพระคุณภาพจาก ร.8
ข่าว : ไทบ้าน นิวส์ (พรพิพัฒน์ เพ็ชรสังหาร)